Book,Page,LineNumber,Text 03,028,001,คราวนี้ พิจารณาถึงอาการเสด็จออกบรรพชาต่อไปอีก. คำ 03,028,002,ของพระอรรถกถาจารย์ว่า เสด็จหนีออกในเวลากลางคืน ทรงม้า 03,028,003,"กัณฐกะ มีนายฉันนะตามเสด็จนั้น, น่าจะกล่าวโดยอุปมา. มีเรื่อง " 03,028,004,ในพราหมณสมัย อันจะสาธกความนี้ได้อยู่. เป็นธรรมเนียมของ 03,028,005,ท่านผู้ปรารถนาจักรพรรดิราชสมบัติ จะต้องเที่ยวจาริกไปตามลำพัง 03,028,006,"ผู้เดียวหรือน้อยคน สู่ชลาลัยศักดิ์สิทธิ์อันมี ณ ที่นั้น ๆ, นำสักการะ" 03,028,007,และสรงสนานทั่วตำบลแล้วจึงกลับมานคร. ในลำดับนั้น ปล่อย 03,028,008,เศวตอัสดรให้เที่ยวไปในชนบท ยกทัพติดตามม้าไป ชนบทใดไม่ 03,028,009,ยอมอยู่ใต้อำนาจ ชนบทนั้นก็ห้ามม้า ไม่ปล่อยให้เหยียบแดน. 03,028,010,ทัพที่ยกตามไปก็เข้ารบ เพื่อตีชนบทนั้นไว้ในอำนาจ. ถ้าเจ้าของ 03,028,011,"ม้าแพ้ ก็ต้องเลิกปล่อยม้า, ถ้าชนะ ก็ปล่อยม้าต่อไป, ชนบทใด" 03,028,012,ยอมไม่ต่อสู้ ก็ปล่อยม้าและกองทัพเข้าเหยียบแดน. ครั้นได้ชนบท 03,028,013,"ทั้งหลายอยู่ใต้อำนาจทั่วแล้ว ยกทัพพาม้ากลับนคร, คราวนี้ตั้งพิธี" 03,028,014,บูชายัญ ฆ่าม้านั้นเซ่นเทวดา เป็นเครื่องหมายความสำเร็จแห่งความ 03,028,015,เป็นจักรพรรดิราช ยัญชนิดนี้เรียกว่าอัศวเมธะ แปลว่า เป็นเหตุ 03,028,016,"ฆ่าม้า, พระเจ้าชนเมชยะได้เคยทรงบูชา. พระโบราณาจารย์ผู้ถือ" 03,028,017,พระพุทธศาสนาเปลี่ยนชื่อยัญนี้เป็นสัสสเมธะ แปลว่า ความฉลาดใน 03,028,018,"อันบำรุงข้าวกล้า, ตั้งเป็นสังคหวัตถุประการหนึ่ง อันพระราชาจะพึง" 03,028,019,"ทรงบำเพ็ญการบูชายัญ ก็แสดงโดยเป็นทรงบำเพ็ญมหาบริจาค, ดั่ง"