Book,Page,LineNumber,Text 03,004,001,"กษัตริย์และพราหมณ์ จัดเป็นชาติสูง, แพศย์เป็นสามัญ, ศูทร " 03,004,002,เป็นต่ำ. ในครั้งพุทธกาล กษัตริย์เป็นสูงสุด แต่พวกพราหมณ์เขาก็ 03,004,003,ถือว่าพวกเขาสูงสุด. พวกเหล่านั้น ที่เป็นชั้นสูง ย่อมมีมานะ 03,004,004,ถือตัวจัดเหตุชาติและโคตรของตน พวกกษัตริย์และพวกพราหมณ์ 03,004,005,ย่อมรังเกียจพวกชั้นต่ำลงมา ไม่สมสู่เป็นสามีภรรยาด้วย ไม่ร่วม 03,004,006,"กินด้วย, เพราะเหตุนั้น พวกกษัตริย์ก็ดี พวกพราหมณ์ก็ดี จึงสมสู่" 03,004,007,กันแต่ในจำพวกของตน. พวกมีโคตรสูง ย่อมรังเกียจพวกมีโคตรต่ำ 03,004,008,ดุจเดียวกัน ไม่สมสู่ด้วยคนอื่นนอกจากสกุลของตน เช่นพวกศากยะ 03,004,009,อันเป็นโคตมโคตร ไม่ยอมสมสู่แม้ด้วยพวกกษัตริย์ด้วยกันแต่ต่างโคตร 03,004,010,ย่อมสมสู่ด้วยกันเอง. 03,004,011,วรรณะ ๔ นี้เป็นจำพวกใหญ่ นอกจากนี้ยังมีอีก แต่เป็นจำพวก 03,004,012,"ที่เลวทั้งนั้น, เกิดแต่วรรณะ ๔ เหล่านี้ สมสู่กับวรรณะอื่นจากพวก" 03,004,013,ของตน เช่นพวกพราหมณีได้กับศูทร มีบุตรออกมา จัดเป็นอีก 03,004,014,จำพวกหนึ่ง เรียกว่า ' จัณฑาล. ' จำพวกคนเกิดจากมารดาบิดา 03,004,015,ต่างวรรณะกันเช่นนี้ เขาถือเป็นเลว เป็นที่ดูหมิ่นของคนมีชาติสกุล 03,004,016,เช่นกับคนที่เรียกกันว่าครึ่งชาติในบัดนี้. 03,004,017,การศึกษาของคนทั้งหลาย ย่อมเป็นไปตามประเภทของวรรณะ 03,004,018,พวกกษัตริย์ ก็ศึกษาไปในยุทธวิธี. 03,004,019,พวกพราหมณ์ ก็ศึกษาไปในศาสนาและในวิทยาต่าง ๆ. 03,004,020,พวกแพศย์ ก็ศึกษาไปในศิลปะและกสิกรรม พาณิชการ. 03,004,021,พวกศูทร ก็ศึกษาไปในการงานที่จะพึงทำด้วยแรง.