Book,Page,LineNumber,Text
03,003,001,อินเดียจนทุกวันนี้ ( พ.ศ. ๒๔๕๕ )๑ มัชฌิมชนบทนั้นเป็นที่นิยมนับถือ
03,003,002,ของคนในครั้งนั้น เพราะเป็นท่ามกลาง เป็นที่ตั้งแห่งนครใหญ่ ๆ
03,003,003,และเป็นที่ประชุมนักปราชญ์ผู้มีความรู้.
03,003,004,"ชมพูทวีปนั้น ปันเป็นหลายอาณาจักร, ที่ปรากฏชื่อในครั้ง"
03,003,005,พุทธกาล ระบุไว้ในบาลีอุโบสถสูตรในติกนิบาตอังคุตร๒ เป็นมหา-
03,003,006,ชนบท ๑๖ แคว้น คือ อังคะ มคธะ กาสี โกสละ วัชชี มัลละ
03,003,007,เจตี วังสะ กุระ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะ อัสสกะ อวันตี คันธาระ
03,003,008,กัมโพชะ. ระบุไว้ในบาลีแห่งสูตรอื่น ไม่ซ้ำชื่อข้างต้น คือ สักกะ
03,003,009,โกลิยะ ภัคคะ วิเทหะ อังคุตตราปะ. อาณาจักเหล่านี้ มีพระเจ้า
03,003,010,แผ่นดินดำรงยศ เป็นมหาราชาบ้าง เป็นแต่เพียงราชาบ้าง มีอธิบดี
03,003,011,บ้าง เป็นผู้ปกครองโดยทรงอำนาจสิทธิ์ขาดบ้าง โดยสามัคคีธรรม
03,003,012,"บ้าง, บางคราวตั้งเป็นอิสระตามลำพัง บางคราวตกอยู่ในอำนาจอื่น"
03,003,013,ตามยุคตามคราว.
03,003,014,คนในชมพูทวีปนั้น แบ่งเป็น ๔ จำพวก เรียกว่า วรรณะ คือ :-
03,003,015,กษัตริย์ จำพวกเจ้า มีธุระทางรักษาบ้านเมือง ๑.
03,003,016,พราหมณ์ จำพวกเล่าเรียน มีธุระทางฝึกสอนและทำพิธี ๑.
03,003,017,แพศย์ จำพวกพลเรือน มีธุระทางทำนาค้าขาย ๑.
03,003,018,ศูทร จำพวกคนงาน มีธุระรับจ้างทำการทำของ ๑.