Book,Page,LineNumber,Text 27,0034,001,สังฆาทิเสส. 27,0034,002,ข้อความที่ควรกำหนด ดังนี้ :- 27,0034,003,สงฆ์ 27,0034,004,สงฆ์ หมายเอาภิกษุทั้งหมู่ที่อยู่พร้อมเพรียงกัน คือมีสังวาส 27,0034,005,เสมอกัน อยู่ในสีมาเดียวกน. 27,0034,006,พากเพียร 27,0034,007,คำว่า พวกเพียรเพื่อจะทำลายสงฆ์นั้น คือขวนขวายเพื่อจะให้ 27,0034,008,แตกเป็นก๊ก จนถึงมีสังวาสต่างกัน คือไม่ร่วมอุโบสถสังฆกรรม. 27,0034,009,อธิกรณ์ 27,0034,010,อธิกรณ์เป็นเหตุแตกกันนั้น คือเถียงกันว่า นั่นธรรม นั่นไม่ใช่ 27,0034,011,ธรรม. นั่นวินัย นั่นไม่ใช่วินัย เป็นต้น. 27,0034,012,อาการที่เป็นอาบัติ 27,0034,013,๑. เป็นหน้าที่ของภิกษุผู้รู้เรื่องจะพึงห้ามปราม ถ้าไม่ห้าม 27,0034,014,ต้องทุกกฏ. 27,0034,015,๒. ถ้าห้ามแล้วไม่ฟัง พึงนำตัวมาท่ามกลางสงฆ์ว่ากล่าวอีก ๓ 27,0034,016,ครั้ง ถายังขัดขืนอยู่ พึงสวดสมนุภาส คือประกาศห้ามด้วยอาณัติ 27,0034,017,ของสงฆ์ ด้วยญัตติจตุตถกรรม ถ้าภิกษุผู้เป็นตัวการสละเสียได้ใน 27,0034,018,คราวแรก ๆ จัดว่าดี ถ้าไม่สละต้องทุกกฎทุกคราว. 27,0034,019,๓. ถ้าสวดจนจบญัตติ คือคำเผดียงสงฆ์ จบอนุสาวนา คือ 27,0034,020,คำหารือและตกลงของสงฆ์ ๒ คราวข้างต้น ต้องถุลลัจจัย. 27,0034,021,๔. จบอนุสาวนาคราวที่ ๓ อันเป็นหนสุดท้าย ต้องสังฆาทิเสส.