Book,Page,LineNumber,Text 21,0012,001,ตามในสภาวธรรมที่พระองค์ตรัสรู้นั้น จนได้บรรลุมรรคผลทำให้แจ้ง 21,0012,002,ซึ่งพระนิพพานได้ด้วย ตามปัญญาและวาสนาบารมีของตน ๆ เมื่อ 21,0012,003,ทรงสั่งสอนสัตว์อื่นเพื่อจะให้ตรัสรู้ตามในสภาวธรรมที่พระองค์ตรัสรู้นั้น 21,0012,004,หาได้ย่อหย่อนท้อถอยเกียจคร้านในการที่จะทรงสั่งสอนสัตว์อื่นไม่ ข้อ 21,0012,005,นี้จัดเป็นพระกรุณาคุณ. ก็พระปัญญาคุณและพระกรุณาคุณของพระผู้ 21,0012,006,มีพระภาคเจ้านี้ ไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ โยคาพจรกุลบุตรผู้เจริญพุทธา- 21,0012,007,นุสสตินั้น จะพึงระลึกตรึกคิดไปในพระปัญญาคุณและพระกรุณาคุณ 21,0012,008,ของพระผู้มีพระภาคเจ้าที่กล่าวมาแล้วนี้ก็ได้ หรือจะระลึกตรึกคิดไป 21,0012,009,ในพระคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยพระคุณนาม ๑๐ ประการ อย่าง 21,0012,010,ใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อจะระลึกโดยพระคุณนาม ๑๐ ประการนั้น พึง 21,0012,011,ระลึกดังนี้ว่า 21,0012,012,พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงพระนามว่า 'อรหํ' เพราะเป็นผู้ไกล 21,0012,013,อย่าง ๑ เป็นผู้ควรอย่าง ๑. ซึ่งว่าเป็นผู้ไกลนั้นคือพระองค์เป็นผู้ไกล 21,0012,014,จากกิเลส คือไม่มีกิเลสเครื่องเศร้าหมองใน คือโลภ โกรธ หลง และ 21,0012,015,มายาสาไถยเป็นต้น มิได้มีในพระสันดานของพระองค์ เพราะพระองค์ 21,0012,016,ละกิเลสกับทั้งวาสนาเสียได้แล้วด้วยมรรคญาณนั้น ๆ. วาสนานั้น คือ 21,0012,017,ปรกติอาการกายวาจาอันกิเลสอบรมมาแต่ชาติก่อน ๆ วาสนานี้พระ- 21,0012,018,สัพพัญญูพุทธเจ้าจำพวกเดียว จึงมละได้ขาดพร้อมกับกิเลสด้วยพระ- 21,0012,019,อรหัตมรรคญาณ แต่พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอรหันตขีณาสพ 21,0012,020,อื่น ๆ มละวาสนาไม่ได้ มละได้แต่กิเลสอย่างเดียว. พระผู้มีพระภาค 21,0012,021,เพราะไกลจากกิเลสดังนี้ พระองค์จึงมีพระหฤทัยบริสุทธิ์ใสสะอาดไม่