Book,Page,LineNumber,Text 21,0005,001,ขึ้น ๑ คืออาโลกกสิณ เพ่งดูแสงสว่าง ณ ที่ปรากฏ ณ ที่ใดที่หนึ่ง 21,0005,002,บริกรรมนึกว่าแสงสว่าง ๆ ดังนี้ร่ำไป จนเกิดอุคคหนิมิตและปฏิภาค- 21,0005,003,นิมิตขึ้น ๑ คืออากาสกสิณ เพ่งอากาศ บริกรรมนึกว่าอากาศ ๆ ดังนี้ 21,0005,004,ร่ำไป จนเกิดอุคคหนิมิตและปฏิภาคนิมิตขึ้น ๑ รวมเป็นกสิณ ๑๐ 21,0005,005,ก็อุคคหนิมิตในกสิณนั้น คืออารมณ์เป็นที่เพ่งดูเห็นติดตาปรากฏอยู่ ก็ 21,0005,006,ปฏิภาคนิมิตในกสิณนั้น คืออารมณ์ที่เห็นติดตาอยู่นั้นปรากฏแจ้งชัดขึ้น 21,0005,007,ในใจด้วยบริกรรมนึกไป. 21,0005,008,อสุภ ๑๐ นั้น คือซากศพที่เน่าพองขึ้น ๑ คือซากศพที่มีสีเขียว ๑ 21,0005,009,คือซากศพที่มีน้ำเหลืองไหลออกอยู่ ๑ คือซากศพที่ขาดกลางตัว ๑ คือ 21,0005,010,ซากศพที่แร้งกาสุนัขเป็นต้นยื้อแย่งกัดกินแล้ว ๑ คือซากศพที่มีมือและ 21,0005,011,เท้าและศีรษะขาดไปอยู่ข้างหนึ่ง ๑ คือซากศพที่คนมีเวรเป็นข้าศึกสับ 21,0005,012,ฟันบั่นเป็นท่อน ๆ ๑ คือซากศพที่ต้องประหารด้วยศัสตรา มีโลหิต 21,0005,013,ไหลอาบอยู่ ๑ คือ ซากศพที่มีตัวหนอนคลายคล่ำไปอยู่ ๑ คือซากศพ 21,0005,014,ที่ยังเหลือแต่ร่างกระดูก ๑ รวมเป็นอสุภ ๑๐. ก็ในอสุภ ๑๐ นี้ อสุภ 21,0005,015,อย่างใดอย่างหนึ่ง โยคาพจรกุลบุตรได้เห็นแล้วเพ่งดูให้ติดตาอยู่อย่างนี้ 21,0005,016,ชื่อว่าได้อุคคหนิมิต แล้วก็นึกให้เห็นปรากฏแจ้งชัดขึ้นในใจอย่างนี้อีก 21,0005,017,ชื่อว่าได้ปฏิภาคนิมิต. 21,0005,018,ก็อนุสสติ ๑๐ นั้น คือพุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า 21,0005,019,เป็นอารมณ์ ๑ ธัมมานุสสติ ระลึกถึงคุณพระธรรมเป็นอารมณ์ ๑ 21,0005,020,สังฆานุสสติ ระลึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์ ๑ สีลานุสสติ ระลึก 21,0005,021,ถึงศีลที่ตนรักษาเป็นอารมณ์ ๑ จาคานุสสติ ระลึกถึงทานที่ตนบริจาค