Book,Page,LineNumber,Text 11,0045,001,ชื่อยสะ มีเรือน ๓ หลัง เป็นที่อยู่ใน ๓ ฤดู ครั้งนั้นเป็นฤดูฝน ยส- 11,0045,002,กุลบุตรอยู่ในปราสาทที่อยู่ในฤดูฝน บำเรอด้วยดนตรีล้วนแต่สตรี 11,0045,003,ประโคม ไม่มีบุรุษเจือปน ค่ำวันหนึ่ง ยสกุลบุตรนอนหลับก่อน 11,0045,004,หมู่ชนบริวารหลังต่อภายหลัง แสงไฟตามสว่างอยู่ ยสกุลบุตรตื่น 11,0045,005,ขึ้น เห็นหมู่ชนบริวารนอนหลับ มีอาการพิกลต่าง ๆ บางนางมีพิณ 11,0045,006,ตกอยู่ที่รักแร้ บางนางมีตะโพนวางอยู่ข้างคอ บางนางมีเปิงมางตก 11,0045,007,อยู่ ณ อก บางนางสยายผม บางนางมีเขฬะไหล บางนางบ่นละเมอ 11,0045,008,ต่าง ๆ ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความยินดีเหมือนก่อน ๆ หมู่ชนบริวารนั้น 11,0045,009,ปรากฏแก่ยสกุลบุตรดุจซากศพที่ทิ้งอยู่ในป่าช้า ครั้นยสกุลบุตรได้เห็น 11,0045,010,แล้ว เกิดความสลดใจคิดเบื่อหน่ายออกอุทาน (วาจาที่เปล่งด้วย 11,0045,011,อำนาจความสลดใจ) ว่า ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ ยส- 11,0045,012,กุลบุตรรำคาญใจ จึงสวมรองเท้าเดินออกจากประตูเรือนไปแล้วออก 11,0045,013,ประตูเมือง ตรงไปในทางที่จะไปป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ในเวลานั้น 11,0045,014,จวนใกล้รุ่ง พระศาสดาเสด็จจงกรมอยู่ในที่แจ้ง ทรงได้ยินเสียงยส- 11,0045,015,กุลบุตรออกอุทานนั้น เดินมายังที่ใกล้ จึงตรัสเรียกว่า ที่นี่ไม่วุ่นวาย 11,0045,016,ที่นี่ไม่ขัดข้อง ท่านมาที่นี่เถิด นั่งลงเถิด เราจักแสดงธรรม 11,0045,017,แก่ท่าน ยสกุลบุตร ได้ยินอย่างนั้นแล้ว คิดว่า ได้ยินว่า ที่นี่ไม่ 11,0045,018,วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง จึงถอดรองเท้าเสียเข้าไปใกล้ไหว้แล้ว นั่ง 11,0045,019,ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง พระศาสดาตรัสเทศนาอนุปุพพีกถา คือถ้อย 11,0045,020,คำที่กล่าวโดยลำดับ พรรณนาทานการให้ก่อนแล้ว พรรณนาศีลความ 11,0045,021,รักษากายวาจาเรียบร้อยเป็นลำดับแห่งทาน พรรณนาสวรรค์ คือ