Book,Page,LineNumber,Text 11,0043,001,เที่ยวบิณฑบาต นำอาหารมาเลี้ยงกันทั้ง ๖ องค์ ภายหลังมหานาม- 11,0043,002,ดาบสและอัสสชิดาบส ได้เห็นธรรมเหมือนท่าน ๓ องค์แล้ว ทูลขอ 11,0043,003,อุปสมบท พระศาสดาก็ทรงอนุญาตอุปสมบทแก่เธอทั้ง ๒ เหมือน 11,0043,004,อย่างทรงอนุญาตแก่ท่านทั้ง ๓ เมื่อภิกษุปัญจวัคคีย์ตั้งอยู่ในที่แห่ง 11,0043,005,สาวกแล้ว มีอินทรีย์ศรัทธาเป็นต้นแก่กล้า ควรเจริญวิปัสสนาเพื่อ 11,0043,006,วิมุตติแล้ว พระศาสดาตรัสธรรมเทศนาสั่งสอนว่า ภิกษุทั้งหลาย 11,0043,007,รูป คือ ร่างกาย เวทนา คือ ความรู้สุขทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์ 11,0043,008,สัญญา คือ ความจำ สังขาร คือ สภาพที่เกิดกับใจ ปรุงใจให้ดี 11,0043,009,บ้างชั่งบ้าง และวิญญาณ คือ ใจ ๕ ขันธ์นี้เป็นอนัตตาไม่ใช่ตน 11,0043,010,ถ้าขันธ์ทั้ง ๕ นี้จักได้เป็นต้นแล้ว ขันธ์ ๕ นี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่อความ 11,0043,011,ลำบาก อนึ่งผู้ที่ถือว่าเป็นเจ้าของก็จะพึงปรารถนาได้ในขันธ์ ๕ นี้ ตาม 11,0043,012,ใจหวังว่า จงเป็นอย่างนี้เถิด อย่าเป็นอย่างนั้นเลย เหตุใด ขันธ์ ๕ นี้ 11,0043,013,ไม่ใช่ตน เหตุนั้น ขันธ์ ๕ นี้ จึงเป็นไปเพื่อความลำบาก อนึ่ง ผู้ที่ 11,0043,014,ถือว่าเป็นเจ้าของย่อมไม่ปรารถนาได้ในขันธ์ ๕ นี้ ตามใจหวังว่า จง 11,0043,015,เป็นอย่างนี้เถิด อย่าเป็นอย่างนั้นเลย. 11,0043,016,พระศาสดาทรงแสดงขันธ์ ๕ ว่าเป็นอนัตตา สอนภิกษุปัญจ- 11,0043,017,วัคคีย์ให้พิจารณาแยกกายใจอันนี้ออกเป็นขันธ์ ๕ ทางวิปัสสนาอย่างนี้ 11,0043,018,แล้ว ตรัสถามความเห็นของเธอทั้ง ๕ ว่า ภิกษุทั้งหลาย ท่านสำคัญ 11,0043,019,ความนั้นเป็นไฉน ขันธ์ ๕ นี้ เที่ยงหรือไม่เที่ยง ? ไม่เที่ยง พระองค์. 11,0043,020,ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ หรือเป็นสุขเล่า ? เป็นทุกข์ พระองค์. 11,0043,021,ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือ