Book,Page,LineNumber,Text 11,0035,001,จึงนัดหมายกันว่าพระสมณโคดมนี้ มีความมักมากคลายเพียรเวียนมา 11,0035,002,เพื่อความมักมากแล้ว เสด็จมา ณ บัดนี้ ในเราทั้งหลาย ผู้ใดผู้หนึ่ง 11,0035,003,ไม่พึงไหว้ ไม่พึงลุกขึ้นต้อนรับเธอ ไม่พึงรับบาตรจีวรของเธอเลย 11,0035,004,ก็แต่ว่าพึงตั้งอาสนะที่นั่งไว้เถิด ถ้าเธอปรารถนาก็จะนั่ง ครั้นพระ 11,0035,005,สัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จเข้าไปถึงแล้ว เธอพูดกับพระองค์ ด้วยโวหาร 11,0035,006,ไม่เคารพ คือพูดออกพระนามและใช้คำอาวุโส พระองค์ตรัสห้าม 11,0035,007,เสียแล้วตรัสบอกว่า เราได้ตรัสรู้อมฤตธรรมโดยชอบเองแล้ว ท่าน 11,0035,008,ทั้งหลายคอยฟังเถิดเราจักสั่งสอน เมื่อท่านทั้งหลายปฏิบัติตามเราสั่งสอน 11,0035,009,ไม่ช้าสักเท่าใด ก็จักบรรลุอมฤตธรรมนั้น. 11,0035,010,ก็คำว่าอมฤตธรรมนั้น เป็นโวหารเรียกตามโวหารพราหมณ์ 11,0035,011,เพราะพราหมณ์ถือกันว่า ในกาลก่อน เทวดาเป็นอันมากคิดอยาก 11,0035,012,จะหาของที่กันตาย ไปทูลถามพระเป็นเจ้า ๆ รับสั่งให้กวนมหาสมุทร 11,0035,013,จะเกิดน้ำทิพย์ที่ดื่มเข้าไปแล้ว ทำผู้ดื่มไม่ให้ตาย เทวดาทั้งหลาย 11,0035,014,ก็กวนมหาสมุทรตามคำพระเป็นเข้ารับสั่ง เมื่อกวนนั้นใช้ภูเขารองข้าง 11,0035,015,ล่างเขาหนึ่ง วางข้างบนเขาหนึ่ง ท่านทางคล้ายกับโม่สำหรับโม่แห้ง 11,0035,016,และเอานาคพันเข้าข้างบน ช่วยกันชักสองข้าง อาศัยความร้อนที่เกิด 11,0035,017,แต่ความหมุนเวียนแห่งภูเขา ต้นไม้ที่เป็นยาบนภูเขาทั้งปวง คายรสไหล 11,0035,018,หลงไปในมหาสมุทรจนข้นเป็นปลักแล้ว เกิดเป็นน้ำทิพย์ในท่ามกลาง 11,0035,019,มหาสมุทรเรียกว่าน้ำอมฤตบ้าง น้ำสุรามฤตบ้าง แปลว่าน้ำทำผู้ดื่มไม่ 11,0035,020,ให้ตายของเทวดา เทวดาได้ดื่มน้ำอมฤตนั้นแล้วเป็นผู้ไม่ตาย จึงได้ 11,0035,021,นามว่า อมโร แปลว่าผู้ไม่ตาย ศัพท์นั้นเป็นเครื่องใช้เรียกเทวดา