Book,Page,LineNumber,Text 11,0019,001,ด้วยพระขรรค์อธิษฐานเพศบรรพชา ณ ที่นั้น ท่านผู้แต่บาลีและ 11,0019,002,อรรถกถากล่าวความผิดกันอย่างนี้ ถ้าพระราชกุมารหนีออกบรรพชา 11,0019,003,เหตุไฉนไม่ได้ข่าวว่า พระบิดาทรงทราบแล้ว ทรงเพิกเฉยเสีย หรือ 11,0019,004,ทรงติดตามแต่ไม่พบ นายฉันนะกลับมาพระนครแล้ว ก็ไม่ได้ยินว่า 11,0019,005,ทรงพระพิโรธและลงราชทัณฑ์แก่นายฉันนะอย่างไร ดูความขาดหาย 11,0019,006,ไป ถ้าพระราชกุมารเสด็จออกบรรพชาโดยซึ่งหน้า พระราชกุมาร 11,0019,007,พระองค์นี้เล่า ก็เป็นพระราชโอรสใหญ่ที่จะได้สืบพระวงศ์ เหตุไฉน 11,0019,008,จึงต้องยอมให้บรรพชา เพราะความจำเป็นอย่างไรก็ไม่แจ้ง ข้าพเจ้า 11,0019,009,ใคร่ครวญเห็นว่า เวลาที่เสด็จออกบรรพชา จะเข้าใจกันว่า ออก 11,0019,010,ไปถือบวชประพฤติวัตร ทรมานร่างกายถวายพระเป็นเจ้าตามแบบ 11,0019,011,ศาสนาพราหมณ์เพียงครั้งหนึ่งคราวเดียว จึงเป็นช่องให้พระราช- 11,0019,012,กุมารเสด็จออกไปได้โดยง่าย ครั้นท่านเสด็จออกไปแล้ว ไม่เสด็จ 11,0019,013,กลับ ก็ไม่รู้ว่าจะทำประการใดได้ ข้อนี้ก็เป็นแต่อนุมานเทียบเรื่อง 11,0019,014,อื่นเท่านั้น ไม่เป็นการแน่ได้ จึงว่าในท้องเรื่องแต่สังเขปเพียง 11,0019,015,เท่านั้น ข้อที่พระราชกุมารปลงพระเกศเสียนั้น ดูเหมือนจะผิดแบบ 11,0019,016,ของบรรพชิตในครั้งนั้น เพราะบรรพชิตในครั้งนั้น เกล้าผมเซิงที่ 11,0019,017,เรียกว่าชฎา ชะรอยจะทรงเห็นว่า การปลงพระเกศเสียนั้น และเป็น 11,0019,018,เหตุห้ามกันไม่ให้พระองค์เสด็จกลับคืนไปสู่ฆราวาสอีกได้ และเป็น 11,0019,019,เหตุให้พระบิดาและพระญาติวงศ์สิ้นหวังในพระองค์ เพราะได้ยินว่า 11,0019,020,คนในครั้งนั้นถือการตัดการโกนผมด้วยคมมีดว่าเป็นจัญไร คนที่ตัด 11,0019,021,หรือโกนผมด้วยคมมีดแล้ว เป็นที่หมิ่นของคนทั้งปวง ไม่เป็นที่