Book,Page,LineNumber,Text 11,0017,001,ปริเฉทที่ ๒ 11,0017,002,วันหนึ่ง สิทธัตถราชกุมาร ทรงรำพึงว่า หมู่ชนที่เกิดมาแล้ว 11,0017,003,ต้องมีความแก่ความเจ็บความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงความแก่ความ 11,0017,004,เจ็บความตายไปได้ทุกคน แม้เป็นอย่างนั้น เพราะโทษที่ไม่ได้ฟังคำ 11,0017,005,สั่งสอนของนักปราชญ์ เมื่อได้เห็นผู้อื่นแก่เจ็บตายก็เบื่อหน่ายเกลียด 11,0017,006,ชัง ไม่คิดถึงตัวว่าจะต้องแก่เจ็บตายเหมือนอย่างนั้นบ้าง เมาอยู่ในวัย 11,0017,007,ในความไม่มีโรคและในชีวิต เหมือนหนึ่งเป็นคนจะไม่ต้องแก่เจ็บตาย 11,0017,008,มัวขวนขวายแต่ในของที่มีความแก่เจ็บตายเหมือนด้วยตน ไม่คิดหา 11,0017,009,อุบายที่จะให้พ้นจากความแก่ความเจ็บความตายเลย ถึงเราก็เป็น 11,0017,010,เช่นนั้น ข้อที่เป็นเช่นนั้นไม่สมควรแก่เราเลย เมื่อเราได้รู้เห็นอย่างนี้ 11,0017,011,แล้ว ควรที่จะแสวงหาอุบายที่จะให้พ้นจากความแก่ความเจ็บความตายนี้ 11,0017,012,เมื่อทรงดำริอย่างนี้ ก็ทรงบรรเทาความเมา ๓ ประการและความ 11,0017,013,เพลิดเพลินในกามสมบัติเสียได้ ทรงดำริต่อไปว่า ธรรมดาสภาพ 11,0017,014,ทั้งปวง ย่อมมีของที่เป็นข้าศึกแก้กัน เช่นมีร้อนแล้วก็มีเย็นแก้กัน มี 11,0017,015,มืดแล้วก็มีสว่างแก้กัน บางทีจะมีอุบายที่จะแก้ทุกข์ ๓ อย่างนี้ได้บ้าง 11,0017,016,กระมัง ก็แต่ว่าการที่จะแสวงหาอุบายแก้ทุกข์ ๓ อย่างนั้น เป็นยาก 11,0017,017,อย่างยิ่ง เรายังอยู่ในฆราวาสเห็นจะแสวงหาไม่ได้ เพราะฆราวาสนี้ 11,0017,018,เป็นที่คับแคบนัก และเป็นที่ตั้งแห่งอารมณ์อันทำใจให้เศร้าหมอง 11,0017,019,เป็นที่คับแคบนัก และเป็นที่ตั้งแห่งอารมณ์อันทำใจให้เศร้าหมอง 11,0017,020,เพราะเป็นที่กำหนัดรักใคร่ในอารมณ์ซึ่งเป็นที่ตั้งแต่ความกำหนัดรัก 11,0017,021,ใคร่ ขัดเคืองในอารมณ์ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งความขัดเคือง หลงเพลิด-