Book,Page,LineNumber,Text 11,0013,001,หนึ่ง พระนามว่านันทกุมาร มีพระราชบุตรีพระองค์หนึ่ง มีพระนาม 11,0013,002,ว่ารูปนันทา แม้ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ทรงเป็นภาระในที่จะทำนุบำรุง 11,0013,003,ให้ยิ่งกว่าสิทธัตถกุมาร. 11,0013,004,เมื่อสิทธัตถกุมารทรงพระเจริญขึ้นโดยลำดับ มีพระชนมายุ 11,0013,005,ได้ ๗ ปี พระราชบิดาโปรดให้ขุดสระโบกขรณีในพระราชนิเวศน์ ๓ 11,0013,006,สระ ปลุกอุบลบัวเขียวสระหนึ่ง ปลูกปทุมบัวหลวงสระหนึ่ง ปลูก 11,0013,007,บุณฑริกบัวขาวสระหนึ่ง แล้วตกแต่งให้เป็นที่เล่นสำราญพระหฤทัย 11,0013,008,พระราชโอรส และจักเครื่องทรง คือจันทร์สำหรับทา ผ้าโพก 11,0013,009,พระเศียร ฉลองพระองค์ ผ้าทรงสะพัก พระภูษา ล้วนเป็นของ 11,0013,010,มาแต่แว่นแคว้นกาสี ซึ่งนิยมว่าเป็นของดีประณีตในเวลานั้นทั้งสิ้น 11,0013,011,มีคนคอยอภิบาลกั้นเศวตฉัตร (พระกลดขาวซึ่งนับว่าเป็นของสูง) 11,0013,012,ทั้งกลางวันกลางคือ เพื่อจะมิให้เย็นร้อนธุลีละอองแดดน้ำค้างมาถูก 11,0013,013,ต้องพระกายได้ ครั้นพระราชกุมารมีพระชนม์เจริญควรจะศึกษาศิลป- 11,0013,014,ศาสตร์วิทยาได้ พระราชบิดาจึงทรงพาไปมอบไว้ในสำนักครูวิศวามิตร 11,0013,015,พระราชกุมารทรงเรียนได้ว่องไว จนสิ้นความรู้อาจารย์แล้ว ได้แสดง 11,0013,016,ให้ปรากฏในหมู่พระญาติ เมื่อพระราชกุมารทรงพระเจริญวัย มีพระ 11,0013,017,ชนมายุได้ ๑๖ ปี ควรมีพระเทวีได้แล้ว พระราชบิดาจึงตรัสสั่งให้สร้าง 11,0013,018,ปราสาท ๓ หลัง เพื่อเป็นที่เสด็จอยู่แห่งพระราชโอรสใน ๓ ฤดู คือ 11,0013,019,ฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูฝน ตกแต่งปราสาท ๓ หลังนั้น ตามสมควร 11,0013,020,เป็นที่สบายในฤดูนั้น ๆ แล้ว ส่งทูตเชิญพระราชสาส์นไปขอนาง 11,0013,021,ยโสธรา (บางแห่งเรียกนางพิมพา) ซึ่งเป็นพระราชบุตรีพระเจ้า