Book,Page,LineNumber,Text 50,0043,001,ยินร้าย นี้คือสังขารุเปกขาญาณ อันนับว่าญาณที่สุดของวิปัสสนาญาณ 50,0043,002,เพราะสมควรจะกำหนดรู้อริยสัจได้แล้ว ด้วยเรื่องของสังขารนอกจาก 50,0043,003,ความเกิดดับ ก็ไม่มีอะไรให้รู้วิเศษต่อไปอีก มีอีกอย่างเดียวก็คือความ 50,0043,004,เกิดดับนั้นเป็นตัวทุกข์เท่านั้น เพราะฉะนั้น เมื่อนิพพิทาญาณดำเนิน 50,0043,005,มาถึงญาณนี้แล้ว แต่นั้นก็ถึงความเป็นสัจจานุโลมญาณทีเดียว ต่อจาก 50,0043,006,นั้นก็เป็นวาระแห่งอริยมรรคอริยผลโดยลำดับกัน ความเห็นสังขาร 50,0043,007,จนถึงหน่ายในทุกข์เป็นทางวิสุทธิ ดั่งนี้แล. 50,0043,008,๑๖/๙/๗๐ 50,0043,009,สันติ 50,0043,010,ถ. พระพุทธภาษิตสอนว่า สนฺติมคฺคเมว พฺรูหฺย จงพอกพูน 50,0043,011,ทางแห่งสันติ ดังนี้ อะไรชื่อว่าทาง ? พูนกันอย่างไร ? ไฉนจึงตรัส 50,0043,012,สอนอย่างนั้น ? 50,0043,013,ต. ทวารทั้ง ๓ คือ กายทวาร วจีทวาร มโนทวาร ชื่อว่า 50,0043,014,ทาง. พูดกันอย่างนี้ การทำ การพูด การคิด อย่างใดเป็นไปเพื่อ 50,0043,015,สันติ เช่นเว้นจากเบียดเบียนกัน ชักนำเพื่อการสามัคคี เว้นจากการ 50,0043,016,วิวาทและผรุสวาจา กล่าวถ้อยคำอันสุภาพ นึกในทางเมตตากรุณา 50,0043,017,พึงทำพึงพูดกอย่างนั้น ตลอดถึงหัดจิตให้เป็นไปตาม ปรมัตถปฏิปทาที่ 50,0043,018,หมายกล่าวในบาลีนั้น ที่ตรัสสอนอย่างนี้ เพราะสุขอื่นยิ่งกว่าสันติ 50,0043,019,ย่อมไม่มี. 50,0043,020,ส. ป.