Book,Page,LineNumber,Text 48,0045,001,แต่มีคำพยานเป็นหลักฐาน ควรฟังได้ว่าจำเลยผิดหนักกว่าที่ปฏิญญา 48,0045,002,พึงปรับจำเลยตามคำพยานนั้นได้ อย่างนี้ อนุวาทาธิกรณ์ระงับด้วย 48,0045,003,สมถะ ๒ คือ :- 48,0045,004,๑. สัมมุขาวินัย. 48,0045,005,๒. ตัสสปาปิยสิกา. 48,0045,006,ถ้าจำเลยปฏิเสธ ผู้พิจารณาพึงซักถามถึงเรื่องอันจำเลยทำถึงวิบัติ 48,0045,007,อาบัติอัธยาจารอันเนื่องมาแต่เรื่องนั้น พึงซักถามถึงรูปพรรณสัณฐาน 48,0045,008,ของผู้ทำ อิริยาบถและอาการเมื่อกำลังทำ พึงซักถามถึงกาลอันต่างโดย 48,0045,009,ปี เดือน วัน เวลา พึงซักถามถึงฐานที่และทิศที่ทำโดยสมควรแก่เรื่อง 48,0045,010,ที่โจทก์ว่าได้เห็นเองและได้ฟังเอง พึงซักถามถึงชื่อผู้บอกคำและ 48,0045,011,เหตุให้บอก ประกอบกับกาลและฐานที่ ๆ เขาบอก โดยสมควรแก่ 48,0045,012,เรื่องที่โจทก์ว่ามีผู้บอก พึงซักถามถึงอาการทำให้เกิดรังเกียจอันได้ 48,0045,013,เห็นหรือได้ฟัง ประกอบกับลักษณะอันกล่าวแล้ว โดยสมควรแก่ 48,0045,014,เรื่องที่โจทก์ตั้งรังเกียจ. 48,0045,015,วิธีซักถามจำเลย ท่านมิได้แสดงไว้ แต่พึงซักโดยนัยนั้นเป็นต้น 48,0045,016,ว่าซักถามถึงฐานที่อยู่ในวันเวลาที่โจทก์กล่าวหา. 48,0045,017,"คำบาลีว่า "" เห็นสมด้วยเห็น, เห็นเทียบกันได้กับเห็น, เห็นยันกัน" 48,0045,018,ไม่เข้ากัน ฯ ล ฯ พระมติของสมเด็จ ฯ ว่าคำนี้แสดงลักษณะคำพยานที่ 48,0045,019,ควรฟังได้หรือมิได้ ข้อว่าเห็นสมด้วยเห็นนั้น เช่นโจทก์หาว่าได้เห็น 48,0045,020,จำเลยทำการละเมิดอย่างนั้น ๆ พยานโจทก์เบิกความสมกันโดยอาการวัน