Book,Page,LineNumber,Text 48,0043,001,พึงเป็นผู้หนักในพระสัทธรรม ไม่พึงเป็นผู้หนักในอามิส พึงเป็นผู้เป็น 48,0043,002,ไปตามอำนาจแห่งคดี ไม่พึงเป็นผู้เห็นแก่บริษัท พึงเป็นผู้รู้จักที่นั่ง 48,0043,003,พึงนั่ง ณ อาสนะของตน ทอดตาชั่วแอก เพ่งเนื้อความ ไม่ลุกจาก 48,0043,004,อาสนะไปข้างไหน ไม่พึงเสพทางเสีย ไม่พึงพูดส่ายคำ (หรือส่ายแขน) 48,0043,005,พึงเป็นผู้ไม่พูดพล่อย เป็นผู้พูดมีที่สุด พึงเป็นผู้ไม่ลุกลน เป็นผู้ไม่ 48,0043,006,ผลุนผลัน พึงเป็นผู้ไม่ผูกเวร เป็นผู้ไม่ขัดเคือง พึงเป็นผู้ไม่ดุดัน 48,0043,007,เป็นผู้อดได้ต่อถ้อยคำ พึงเป็นผู้มีเมตตาจิต เป็นผู้คิดเอ็นดูเพื่อประ- 48,0043,008,โยชน์ พึงเป็นผู้มีกรุณา เป็นผู้ขวนขวายเพื่อประโยชน์ พึงรู้จักตน 48,0043,009,พึงรู้จักท่าน พึงสังเกตโจทก์ พึงสังเกตจำเลยว่าเป็นผู้เช่นไร เป็นผู้ 48,0043,010,ประหม่าพึงพูดเอาใจให้ร่าเริง เป็นผู้ขลาดพึงพูดปลอบ เป็นผู้ดุพึง 48,0043,011,ห้ามเสีย เป็นผู้ไม่สะอาด (โดยความประพฤติ) พึงดัดเสีย เป็นผู้ 48,0043,012,ตรงพึงประพฤติต่อด้วยความอ่อนโยน ไม่พึงถึงฉันทาคติ โทสาคติ 48,0043,013,โมหาคติ ภยาคติ พึงวางตนเป็นกลางทั้งในธรรมทั้งในบุคคล เมื่อ 48,0043,014,ซักพึงซักโดยกาล ไม่พึงซักโดยอกาล พึงซักด้วยคำจริง ไม่พึงซักด้วย 48,0043,015,คำเท็จ พึงซักด้วยคำสุภาพ ไม่พึงซักด้วยคำหยาบ พึงซักด้วยคำ 48,0043,016,ประกอบด้วยประโยชน์ในคดี ไม่พึงซักด้วยคำไร้ประโยชน์ พึงเป็น 48,0043,017,ผู้มีเมตตาจิตซัก ไม่พึงเป็นผู้เพ่งโทษ (เช่นน้อมใจเชื่อว่าจำเลยทำผิด 48,0043,018,จริงหรือโจทก์ใส่ความ) ไม่พึงเป็นผู้กระซิบที่หู ไม่พึงชำเลืองดู ไม่ 48,0043,019,พึงขยิบตา ไม่พึงเลิกคิ้ว ไม่พึงชะเง้อศีรษะ ไม่พึงทำวิการแห่งมือ 48,0043,020,(คือใช้ใบ้) ไม่พึงแสดงปลายนิ้วมือในขณะซัก พึงกำหนดข้อความ 48,0043,021,อันสองฝ่ายกล่าวมิให้ตกหล่น ไม่พึงแซมข้อความอันเขาไม่ได้กล่าว