Book,Page,LineNumber,Text 43,0012,001,จึงกลับความเห็นใหม่ หันมาติดในลัทธิอัตตกิลมถานุโยค ซึ่งเป็นลัทธิ 43,0012,002,ที่เขานิยมกันในสมัยนั้นต่อไปอีก ครั้นพระองค์ทรงเลิกทำทุกรกิริยาเสีย 43,0012,003,ก็เลยสันนิษฐานว่าไม่เป็นผลสำเร็จแน่ จึงเกิดเบื่อหน่ายและทิ้งไปเสีย 43,0012,004,แต่พระคันถรจนาจารย์แสดงเหตุข้อนี้ไว้ว่า เป็นธรรมดานิยมให้ 43,0012,005,ท่านมาพบและอุปัฏฐากในเวลาทรงทำทุกรกิริยา เพื่อจะได้เป็นพยาน 43,0012,006,เมื่อถึงคราวจะทรงแสดงพระธรรมเทศนาคัดค้านอัตตกิลมถานุโยคจะได้ 43,0012,007,ใช้เป็นพยานว่า พระองค์ได้ทรงเคยทำมาแล้ว หาสำเร็จประโยชน์ 43,0012,008,จริงไม่ ครั้นถึงคราวต้องการวิเวก บันดาลให้สิ้นภักดีพร้อมด้วย 43,0012,009,ภิกษุสหจรพากันหนีไปเสีย ดังนี้. 43,0012,010,๒๐/๘/๗๐ 43,0012,011,ถ. เมื่อท่านได้อุปสมบทแล้ว ได้เป็นพระอุปัชฌายะบวชใคร 43,0012,012,บ้าง ? สัทธิวิหาริกของท่านนั้น เกี่ยวข้องกับท่านอย่างไร ? และมี 43,0012,013,ชื่อเสียงในทางไหน ? 43,0012,014,ต. ได้เป็นพระอุปัชฌายะบวชปุณณมาณพบุตรนางมันตานี. เกี่ยว 43,0012,015,เป็นหลาน. ท่านมีชื่อเสียงในทางเห็นธรรมกถึก จนถึงพระศาสดา 43,0012,016,ทรงยกย่องในทางนั้น. 43,0012,017,๒๐/๘/๗๐ 43,0012,018,ถ. ธรรมดาผู้เป็นประมุข เมื่อจะส่งผู้แทนไปทำกิจอันสำคัญ 43,0012,019,ในที่ต่าง ๆ มักจะเรียกประชุมเพื่อให้โอวาทเป็นการตักเตือนหรือ 43,0012,020,แนะนำก่อนแล้วจึงส่งไป สมเด็จพระบรมศาสดานับว่าเป็นประมุข 43,0012,021,ของพระสงฆ์ เคยทรงทำเช่นนั้นบ้างหรือไม่ ? ถ้าเคยทำ ๆ เมื่อไร ?