Book,Page,LineNumber,Text 37,0018,001,ได้ ต้องจำกัดคำพูดของตนให้อยู่ในกรรมในวงเท่านั้น นี้หมาย 37,0018,002,ความว่า พูดตามที่ในพระพุทธศาสนาได้กล่าวได้อย่างไร ไม่ใช่พูด 37,0018,003,ขึ้นใหม่ โดยที่ในพระพุทธศาสนาไม่ได้กล่าวไว้เลย เหมือนอย่างจะ 37,0018,004,"พูดว่า "" การฆ่าโจรใจร้ายที่ทำประทุษกรรมและโจรกรรม นำความ " 37,0018,005,เดือดร้อนมาให้แก่ประชาชนนั้น หาเป็นปาณาติบาตไม่ เพราะเป็น 37,0018,006,"บุคคลที่ไม่พึงปรารถนาโดยแท้จริง "" ดังนี้ ก็พูดได้ ถ้ามีสุภาษิต" 37,0018,007,ในพระพุทธศาสนารับสมอ้างว่าไม่เป็นปาณาติบาตจริง แต่ถ้าไม่มี 37,0018,008,หรือมี แต่คนไม่สามารถจะนำมารับสมอ้างได้ เช่นนี้ พูดไม่ได้เป็น 37,0018,009,อันขาด เพราะเรื่องเช่นนั้น เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องเด็ดขาดบาดตาย 37,0018,010,ขืนพูดขึ้น เป็นเกิดเรื่อง พึงทราบว่า การพูดอย่างนั้น เป็นการพูด 37,0018,011,เพื่อทำลาย มิใช่เป็นการพูดเพื่อก่อ ซึ่งผู้พูดที่ดีไม่พูดเลย และถ้า 37,0018,012,ปล่อยให้พูดได้ ผลร้ายก็จะพึงบังเกิดขึ้นเป็นแน่แท้ ในที่สุดถึงกับ 37,0018,013,ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมทรามทีเดียว สนามหลวงมองเห็นภัยอัน 37,0018,014,จะพึงมีแก่พระพุทธศาสนาอย่างนี้ จึงพยายามป้องกันด้วยการแก้กระทู้- 37,0018,015,ธรรมที่ต้องอ้างสุภาษิตอื่นมาประกอบนี้. 37,0018,016,ประมวลข้อที่กล่าวมา คงได้ความสั้น ๆ ว่า การพูดในทาง 37,0018,017,พระศาสนา จะพูดตามชอบใจหรือตามใจชอบไม่ได้ ต้องพูดเข้าไป 37,0018,018,"หาหลักหรือพูดจากหลักออกไป นี้แลเรียกว่า "" มีหลัก "" เป็น" 37,0018,019,ลักษณะของความเคารพอย่างสูง ซึ่งถ้านักเรียนคิดดูให้ดีแล้วก็จะ 37,0018,020,เห็นความจริงข้อนี้โดยประจักษ์. 37,0018,021,๒. ปัญหามีอยู่ว่า การเรียงความแก้กระทู้ธรรมนั้น ในที่