Book,Page,LineNumber,Text 36,0039,001,ให้เป็นน้ำอมฤตขึ้นสำเร็จ พวกเทวดาหาอุบายเกียดกันไม่ให้พวกอสูรได้ดื่มน้ำ 36,0039,002,อมฤตนั้น จึงเกิดวิวาทถึงรบราฆ่าฟันกันเป็นการใหญ่ ในการรบกันนั้น น้ำอมฤต 36,0039,003,ได้กระเซ็นตกมาบนหญ้าคา ๒-๓ หยด โดยเหตุนี้เองพวกพราหมณ์จึงถือว่า 36,0039,004,หญ้าคาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นสิ่งที่กำจัดให้ตายได้ยาก เลยนำมาใช้ในพิธีการ 36,0039,005,ต่าง ๆ หลายอย่างติดมาจนทุกวันนี้ สำหรับชาวพุทธที่ติดประเพณีพราหมณ์ 36,0039,006,ก็ถือว่า หญ้าคาเป็นหญ้ามงคล เพราะปรากฏเป็นพุทธบัลลังก์ที่พระพุทธเจ้าประทับ 36,0039,007,ใต้ร่มโพธิพฤกษ์ในวันตรัสรู้ จึงนิยมใช้หญ้าคากันสืบต่อมา ส่วนที่ใช้ก้านมะยม 36,0039,008,อีกอย่างหนึ่ง เห็นจะเป็นความนิยมเกิดขึ้นในภายหลัง และอาจจะนิยมเฉพาะ 36,0039,009,ในประเทศไทย อย่างเดียวกับที่ชาวจีนนิยมใช้ก้านทับทิมพรมน้ำมนต์ เรื่องใช้ 36,0039,010,ก้านมะยมในหมู่ชาวไทยนี้ ได้ทราบอธิบายของเกจิอาจารย์มาว่า ท่านถือว่า 36,0039,011,"""ไม้มะยม"" มีชื่อพ้องกันกับ "" ยมทัณฑ์"" คือ ไม้อาญาสิทธิ์ของพญายมผู้เป็น" 36,0039,012,เจ้าของภูตผีปีศาจ ไม้ผมทัณฑ์นั้นสามารถปราบหรือกำจัดภูตผีได้ทุกทิศทุกทาง 36,0039,013,ชาวไทยเราถือเคล็ดที่ชื่อพ้องกันนี้นำมาใช้สำหรับพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อ 36,0039,014,ขับไล่เสนียดจัญไร และเพื่อให้มีความขลังหรือศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ในการใช้ก้าน 36,0039,015,มะยมนี้ จึงนิยมเพิ่มเติมอีกว่า ต้องใช้ ๗ ก้านมัดรวมกัน โดยถือว่า ได้จำนวน 36,0039,016,เท่ากันกับหัวหน้าข้อธรรมในโพชฌงคสูตร ซึ่งเป็นธรรมโอสถวิเศษ และเท่าจำนวน 36,0039,017,พระปริตร ๗ ตำนานที่พระสงฆ์สวดในงานมงคลนั้นด้วย แต่จะอย่างไรก็ตาม 36,0039,018,เรื่องใช้ก้านมะยมพรมแทนหญ้าคาที่นิยมมาเดิม เห็นจะเป็นเพราะในถิ่นที่เจริญแล้ว 36,0039,019,เช่น ในเมืองเป็นต้น หาหญ้าคาได้ยาก เพราะไม่มีป่าแต่ต้นมะยมมีอยู่ตามบ้าน 36,0039,020,ในเมืองไทยนี้ทั่วไป จึงดัดแปลงมาเพื่อใช้สิ่งที่หาได้ง่ายเป็นประมาณนั่นเอง 36,0039,021,ในการพรมน้ำพระพุทธมนต์ซึ่งฝ่ายพระสงฆ์ได้รับขอร้องก็ควรเป็นหน้าที่ 36,0039,022,ของท่านผู้เป็นหัวหน้าสงฆ์ในพิธีนั้น ควรพรหมเจ้าภาพและญาติพวกพ้องผู้ต้องการ 36,0039,023,ก่อนจะพรมรายตัวพรหมให้กระจายทั่วกันทั้งหมู่ก็ได้ การพรมพึงจับกำหญ้าคาหรือ 36,0039,024,กำก้านมะยมที่เขาเตรียมไว้ใช้มือขวากำรอบด้วยนิ้วทั้ง ๔ เว้นนิ้วชี้ให้ชี้ตรงทอดไป 36,0039,025,ตามกำหญ้าคาหรือกำก้านมะยมนั้น มีอาการอย่างชี้นิ้ว เป็นการแสดงประกาศิต 36,0039,026,ของสงฆ์ จุ่มปลายกำหญ้าคาหรือกำก้านมะยมลงในน้ำพระพุทธมนต์อย่างให้ 36,0039,027,โชกนัก แล้วสะบัดให้น้ำพระพุทธมนต์กระเซ็นออกไปข้างหน้า ไม่ควรสะบัด 36,0039,028,เข้ามาข้างใน เพราะถือว่าน้ำที่สะบัดไปนั้นเป็นการกำจัดเสนียดจัญไรต่าง ๆ ออกไป