Book,Page,LineNumber,Text 26,0013,001,อาการที่ต้องอาบัติ 26,0013,002,ภิกษุต้องอาบัตินั้นด้วยอาการ ๖ อย่าง คือ :- 26,0013,003,๑. ต้องด้วยไม่ละอาย เช่นภิกษุรู้อยู่ว่าสิ่งนี้ไม่ควรทำ ขืนทำการ 26,0013,004,ล่วงสิกขาบทบัญญัติ แกล้งต้องอาบัติและบังอาบัติไว้ด้วย เช่นพูดปด 26,0013,005,โดยอาการต่าง ๆ เสพสุรา พูดเกี้ยวหญิงเป็นต้น. 26,0013,006,๒. ต้องด้วยไม่รู้ เช่นภิกษุเป็นคนเขลามีปัญญาน้อย ไม่รู้ว่า 26,0013,007,สิ่งนี้ควรทำ สิ่งนี้ไม่ควรทำ และไปทำสิ่งที่ไม่ควรทำ สิ่งที่ควรทำ ๆ 26,0013,008,ให้ผิดไปเสีย เช่นการเก็บดอกไม้ ควรจะใช้อนุปสัมบันแต่ไม่ใช้ ไป 26,0013,009,เก็บเองมาบูชาพระเจดีย์ ด้วยเข้าใจว่าเป็นบุญกุศลเป็นต้น. 26,0013,010,๓. ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำ เช่นภิกษุใช้ให้เด็กตักน้ำมาเพื่อ 26,0013,011,บริโภคก็ดี หรือเพื่ออาบก็ดี เกิดความสงสัยขึ้นว่า ในน้ำนั้นจะมีตัว 26,0013,012,สัตว์หรือไม่มี ไม่ได้ไต่ถามหรือพิจารณาให้ถ่องแท้ก่อน แล้วบริโภค 26,0013,013,และอาบน้ำนั้นเป็นต้น. 26,0013,014,๔. ต้องด้วยสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร เช่นเห็นเนื้อหมี 26,0013,015,และเนื้อเสือ ซึ่งเป็นเนื้อไม่ควรบริโภค คล้ายกับเนื้อสุกรและเนื้อ 26,0013,016,อีเก้ง สำคัญว่าเนื้อสุกรและเนื้ออีเก้ง และฉันเนื้อนั้น หรือเวลาบ่าย 26,0013,017,แล้วสำคัญว่ายังไม่บ่าย ฉันอาหารที่เป็นยาวกาลิก หรือมีผู้เอาธนบัตร 26,0013,018,ซึ่งใช้แทนเงินตรามาถวาย สำคัญว่าไม่ใช่เงินและทองรับไว้เป็นต้น. 26,0013,019,๕. ต้องด้วยสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร เช่นเนื้อสุกรและเนื้อ 26,0013,020,อีเก้ง ซึ่งเป็นเนื้อควรบริโภค ภิกษุสำคัญว่าเป็นเนื้อหมีเนื้อเสือเหลือง 26,0013,021,ซึ่งเป็นเนื้อไม่ควรบริโภค แล้วฉันเนื้อนั้น หรือน้ำปานะที่เป็นกัปปิยะ