Book,Page,LineNumber,Text 19,0037,001,หมดเหงื่อไคล เมื่อจะนั่งภาวนานั้น พึงนั่งบนตั่งที่มีเท้าสูงคืบ ๔ นิ้ว 19,0037,002,นั่งให้ไกลดวงกสิณออกไปประมาณ ๒ ศอกคืบ อาการที่นั่งนั้นให้นั่ง 19,0037,003,ขัดสมาธิ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ตั้งกายให้ตรงผินหน้า 19,0037,004,ไปข้างดวงกสิณแล้ว พึงพิจารณาโทษของกามคุณต่าง ๆ และตั้งจิต 19,0037,005,ให้ยินดีในฌานธรรม อันเป็นอุบายที่จะยกตนออกจากกามคุณและจะ 19,0037,006,ล่วงเสียซึ่งกองทุกข์ทั้งสิ้น และพึงระลึกคิดไปในคุณของพระพุทธ 19,0037,007,พระธรรม พระสงฆ์ ยังปรีดาปราโมทย์ให้เกิดขึ้นแล้ว พึงทำจิตให้ 19,0037,008,เคารพรักใคร่ในพิธีทางปฏิบัติให้มั่นว่าปฏิบัติดังนี้ ได้ชื่อว่าเนกขัมม- 19,0037,009,ปฏิบัติ พระอริยะทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น จะได้ละเว้นเสียหามิได้ 19,0037,010,แต่ล้วนปฏิบัติดังนี้ทุก ๆ พรองค์ ครั้นแล้วพึงตั้งจิตว่า เราจะได้เสวย 19,0037,011,สุขอันเกิดแต่วิเวกด้วยปฏิบัติอันนี้โดยแท้ ยังอุตสาหะให้เกิดขึ้นแล้ว 19,0037,012,จึงลืมจักษุขึ้นดูดวงกสิณ เมื่อลืมจักษุขึ้นนั้น อย่าลืมขึ้นให้กว้างนักจะ 19,0037,013,ลำบากจักษุ อนึ่ง มณฑลแห่งดวงกสิณจะปรากฏแจ้งนัก ครั้นลืมจักษุ 19,0037,014,ขึ้นน้อยนัก มณฑลแห่งดวงกสิณจะไม่ปรากฏแจ้ง จิตที่จะถือเอาดวง 19,0037,015,กสิณนิมิตเป็นอารมณ์นั้นก็จะย่อหย่อนท้อถอยเกียจคร้านไป เหตุฉะนี้ 19,0037,016,จึงต้องลืมจักษุด้วยอาการอันเสมอ เหมือนอย่างบุคคลอันส่องกระจกดู 19,0037,017,เงาห้าของตน ที่ปรากฏในพื้นกระจกฉะนั้น. 19,0037,018,อนึ่ง เมื่อแลดูดวงกสิณนั้น อย่าพิจารณาสี พึงกำหนดว่า สิ่งนี้ 19,0037,019,เป็นดินเท่านั้น แต่สีดินนั้นจะละเสียก็มิได้ เพราะว่าสีกับดวงกสิณนั้น 19,0037,020,เป็นอันเดียวกัน ดูดวงกสิณก็เป็นอันดูสีอยู่ด้วย เหตุฉะนี้ พึงรวมดวง 19,0037,021,กสิณกับสีนั้นเข้าด้วยกัน แลดูดวงกสิณและสีนั้นพร้อมกันกำหนด