Book,Page,LineNumber,Text 19,0028,001,นีวรณูปกิเลสได้ขณะหนึ่งครู่หนึ่งก็ดี ก็จัดเป็นสมถภาวนา อนึ่ง ใน 19,0028,002,สติปัฏฐานทั้ง ๔ กายนุปัสสนา ปัญญาพิจารณาตามเห็นซึ่งกายโดย 19,0028,003,บัพพะ ๑๑ ข้อ คือกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกยาวสั้นหยาบละเอียด 19,0028,004,เป็นต้น เรียกว่าอานาปานบัพพะข้อ ๑ กำหนดรู้อิริยาบถ ๔ เดิน 19,0028,005,ยืน นั่ง นอน ว่าสำเร็จเป็นไปได้เพราะลมและจิตที่คิดเรียกว่าอิริยาบถ- 19,0028,006,บัพพะข้อ ๑ กำหนดรู้รอบคอบในวิการของกาย มีก้าวไปข้างหน้า 19,0028,007,และถอยกลับมาข้างหลังเป็นต้น ทุกขณะวิการของกายมิได้ลืมหลงเรียก 19,0028,008,ว่าสัมปชัญญบัพพะข้อ ๑ กำหนดพิจารณากายตนและกายผู้อื่นโดยเห็น 19,0028,009,เป็นของปฏิกูลไม่งามไม่สะอาด เต็มไปด้วยอสุภเป็นของไม่งามน่าเกลียด 19,0028,010,๓๑ ส่วน มี ผม ขน เล็บ ฟัง หนัง เป็นต้นเรียกว่าปฏิกูลบัพพะข้อ ๑ 19,0028,011,พิจารณากายตนและกายผู้อื่น โดยเป็นธาตุ ๔ คือสิ่งที่แข็งที่กระด้าง 19,0028,012,กำหนดว่าเป็นธาตุดิน สิ่งที่อ่อนที่เหลวซึมซาบไปในดิน ทำดินให้ 19,0028,013,เหนียวเป็นก้อนอยู่ได้ กำหนดว่าเป็นธาตุน้ำ สิ่งที่ทำดินและน้ำนั้น 19,0028,014,ให้อุ่นให้ร้อนให้แห้งเกรียมไป กำหนดว่าเป็นธาตุไฟ สิ่งที่อุปถัมภ์ 19,0028,015,อุดหนุนพยุงดินและน้ำไว้และทำให้ไหวติงไปมาได้และรักษาไฟไว้มิให้ 19,0028,016,ดับไปได้ กำหนดว่าเป็นธาตุลม เรียกว่าธาตุบัพพะข้อ ๑ อนึ่ง เมื่อ 19,0028,017,ได้เห็นอสุภ ๙ อย่าง คือซากศพที่เขาทิ้งไว้ในที่ต่าง ๆ มีป่าช้าเป็นต้น 19,0028,018,อันตายแล้ววันหนึ่งหรือ ๒ วัน ๓ วัน ขึ้นพองมีสีเขียวและมีบุพโพ 19,0028,019,ไหลออกอย่าง ๑ คือซากศพที่เขาทิ้งไว้ อันสัตว์ทั้งหลายมีสุนัขเป็นต้น 19,0028,020,กัดเคี้ยวกินแล้ว ๑ คือซากศพที่เขาทิ้งไว้โทรมลงเป็นร่างกระดูก มีเนื้อ 19,0028,021,และเลือดและเส้นเอ็นรึงรัดผูกพ้นอยู่ ๑ คือซากศพที่เขาทิ้งไว้โทรมลง