Book,Page,LineNumber,Text 10,0026,001,แต่ยังไม่อาจถาม ด้วยเห็นว่าเป็นกาลไม่ควร ท่านยังเที่ยวไปบิณฑบาต 10,0026,002,อยู่ จึงติดตามไปข้างหลัง ๆ ครั้นเห็นท่านกลับจากบิณฑบาตแล้ว จึง 10,0026,003,เข้าไปใกล้ พูดปราศรัยแล้ว ถามว่า ผู้มีอายุ อินทรีย์ของท่าน 10,0026,004,หมดจดผ่องใส ท่านบวชจำเพาะใคร ? ใครเป็นพระศาสดาผู้สอนของท่าน ? 10,0026,005,ท่านชอบใจธรรมของใคร ? ผู้มีอายุ เราบวชจำเพาะพระมหาสมณะ 10,0026,006,ผู้เป็นโอรสศากยราชออกจากศากยสกุล ท่านนั้นแล เป็นศาสดา 10,0026,007,ของเรา เราชอบใจธรรมของท่านนั้นแล. พระศาสดาของท่านสั่งสอน 10,0026,008,อย่างไร ? ผู้มีอายุ รูปเป็นผู้ใหม่ บวชยังไม่นาน เพิ่งมายังพระธรรม 10,0026,009,วินัยนี้ ไม่อาจแสดงธรรมแก่ท่านโดยกว้างขวาง รูปจักกล่าวความ 10,0026,010,แก่ท่านแต่โดยย่อพอรู้ความ. ผู้มีอายุ ช่างเถิด ท่านจะกล่าวน้อยก็ตาม 10,0026,011,มากก็ตาม กล่าวแต่ความเถิด รูปต้องการด้วยความ ท่านจะกล่าวคำ 10,0026,012,ให้มากเพื่อประโยชน์อะไร. พระอัสสชิก็แสดงธรรมแก่อุปติสสปริพาชก 10,0026,013,"พอเป็นเลาความว่า "" พระศาสดาทรงแสดงความเกิดแห่งธรรมทั้งหลาย" 10,0026,014,เพราะเป็นไปแห่งเหตุ และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น เพราะดับแห่ง 10,0026,015,"เหตุ พระศาสดาตรัสอย่างนี้.""" 10,0026,016,อุปติสสปริพาชกได้ฟัง ก็ทราบว่า ในพระพุทธศาสนาแสดงว่า 10,0026,017,ธรรมทั้งปวง เกิดเพราะเหตุ และจะสงบระงับไป เพราะเหตุดับก่อน 10,0026,018,พระศาสดาทรงสั่งสอน ให้ปฏิบัติเพื่อสงบระงับเหตุแห่งธรรม เป็น 10,0026,019,เครื่องก่อให้เกิดทุกข์ ได้ดวงตาเห็นธรรมว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความ 10,0026,020,เกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมด ต้องมีความดับเป็นธรรมดา แล้ว