Book,Page,LineNumber,Text 07,0049,001,อันนี้เหตุให้ผลเกิดขึ้นพร้อมแห่งทุกข์ อยํ ทุกฺขนิโรโธ อันนี้ธรรมเป็น 07,0049,002,ที่ดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อยํ ทุกฺขนิโรธคามินีปฏิปทา อันนี้ข้อปฏิบัติ 07,0049,003,มรรคาให้ผู้ปฏิบัติถึงธรรมที่ดับทุกข์ โดยไม่เหลือ. ทรงทราบอาสวะ 07,0049,004,แจ้งประจักษ์ตามจริงว่า อิเม อาสวา เหล่านี้อาสวกิเลสดองสันดาน 07,0049,005,สัตว์ กิเลสซ่านทั่วไป อยํ อาสวสมุทโย อันนี้เป็นสมุทัยเหตุก่อให้ 07,0049,006,เกิดผลแห่งอาสวะ เหตุยังอาสวะให้เกิดขึ้น อยํ อาสวนิโรโธ อันนี้ 07,0049,007,เป็นธรรมที่ดับสนิทดับไม่เหลือแห่งอาสวะ อยํ อาสวนิโรธคามินี- 07,0049,008,ปฏิปทา อันนี้ข้อปฏิบัติมรรคาให้ผู้ปฏิบัติถึงธรรมที่ดับแห่งอาสวะโดย 07,0049,009,ไม่เหลือนั้น. เมื่อพระองค์ทรงทราบชัดอยู่อย่างนี้ จิตพระองค์ก็พ้น 07,0049,010,พิเศษแล้วจากอาสวะทั้งหลาย คือ กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ 07,0049,011,เมื่อจิตพ้นพิเศษจากอาสวะแล้ว ก็เกิดญาณหยั่งทราบว่าจิตพ้นพิเศษแล้ว 07,0049,012,ดังนี้ แล้วเกิดปัจจเวกขณญาณหยั่งทราบชัดว่า ชาติความเกิดสิ้นแล้ว 07,0049,013,พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อ 07,0049,014,เป็นอย่างนี้ไม่มี จบกิจปัญญาอยู่เพียงนี้. วิมุตติความที่จิตพ้นพิเศษ 07,0049,015,แห่งเราไม่กำเริบไม่คืนคลาย ชาติความเกิดแห่งเราชาตินี้มี ณ ที่สุด 07,0049,016,บัดนี้ความเกิดอีกไม่มี. พระองค์เกิดปัจจเวกขณญาณหยั่งทราบด้วย 07,0049,017,ประการฉะนี้. อาสวักขยญาณปรีชาหยั่งทราบรู้ความสิ้นอาสวะนี้เป็น 07,0049,018,วิชชาที่ ๓ พระองค์ได้บรรลุแล้ว ณ ปัจฉิมยามที่สุดแห่งราตรี วิศาข- 07,0049,019,ปุรณมีมงคลสมัย. 07,0049,020,พระพุทธคุณ 07,0049,021,สมเด็จพระผู้ทรงพระภาคนั้น ครั้นเมื่ออาสวักขยญาณวิชชาอัน