Book,Page,LineNumber,Text 07,0023,001,เสวยสุขสมบัติ 07,0023,002,ครั้นพระองค์ทรงเจริญแล้ว ท้าวสุทโธทนสักกาธิบดีชนกนาถ 07,0023,003,ให้นายช่างสร้างปราสาท ๓ ตำบล ปราสาทหนึ่งเป็นที่อยู่ฤดูหนาว ปรา- 07,0023,004,สาทหนึ่งเป็นที่อยู่ฤดูร้อน ปราสาทหนึ่งเป็นที่อยู่ฤดูฝน ควรจะยักย้าย 07,0023,005,โดยผาสุกใน ๓ กาลฉะนั้น. พระมหาบุรุษนั้นอยู่ ณ ปราสาทฤดูฝน ๔ 07,0023,006,เดือน บำเรอด้วยดนตรีล้วนแต่สตรีไม่มีบุรุษ มิได้ลงจากปราสาท 07,0023,007,พร้อมเพรียงด้วยกามคุณทั้ง ๕ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพารมณ์ 07,0023,008,เป็นที่ปรารถนาบันเทิงจิตเป็นนิจกาล. ทั้งทาสกรรมกรบุรุษในนิเวศน์ 07,0023,009,สถานของท้าวสุทโธทนสักกาธิบดีผู้พระบิดา ก็บริโภคอาหารข้าวสาลี 07,0023,010,ระคนด้วยมังสะรูปพยัญชนะวิกัติ ไม่บริโภคกาณาชกภัตกับน้ำส้มเหมือน 07,0023,011,ทาสกรรมกรในตระกูลอื่น และสรรพบริหารทั้งปวงในนิเวศน์ของท้าว 07,0023,012,สุทโธทนสักกะผู้พระบิดานั้น ล้วนอุดมประณีตพิเศษควรบันเทิงจิตทุก 07,0023,013,ประการ. อิติ โข โส พระมหาบุรุษบรมโพธิสัตว์เจ้านั้น ประกอบไป 07,0023,014,ด้วยความสมบูรณ์และความเป็นสุขุมาลสัตว์เห็นปานดังนี้ ดำรงอยู่ใน 07,0023,015,ฆราวาสสุขสมบัติถึง ๒๙ ปี เป็นกำหนด ด้วยประการฉะนี้. 07,0023,016,ประโยชน์ได้เพราะรูปสมบัติและเคยเสวยกามสุข 07,0023,017,และมหาบุรุษ แม้เมื่อเกิดขึ้นในโลก เพื่อความเป็นพระสยัมภู 07,0023,018,พุทธเจ้าดังนี้แล้ว พระองค์มาประกอบด้วยมหาปุริสลักขณสมบัติซึ่งเป็น 07,0023,019,อุบายจะกระทำความเสื่อมใสแก่เวไนยสัตว์บางจำพวก และได้ถึงแล้ว 07,0023,020,ซึ่งความบริบูรณ์ด้วยกามสุขสมบัติอันอุดมประณีตนักเห็นปานดังนี้แต่ใน 07,0023,021,ปฐมวัย เพื่อว่าเมื่อพระองค์ถึงซึ่งสยัมภูอภิสมัยเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า