Book,Page,LineNumber,Text 06,0047,001,เช่นไม่รู้ว่า มีคนลอบเอายาพิษมาปนไว้ในอาหาร และให้อาหารนั้น 06,0047,002,แก่ผู้อื่น เขากินตาย. คนอื่นตายด้วยเหตุเช่นนี้ แม้เกิดแต่ประโยค 06,0047,003,ของภิกษุ ไม่เป็นอาบัติ. 06,0047,004,สิกขาบทที่ ๔ ว่า อนึ่ง ภิกษุใด ไม่รู้เฉพาะ [คือไม่รู้จริง] 06,0047,005,กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่าง 06,0047,006,สามารถ น้อมเข้ามาในตัวว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ 06,0047,007,ครั้นสมัยอื่นแต่นั้น อันผู้ใดหนึ่งถือเอาตามก็ตาม ไม่ถือเอาตาม 06,0047,008,ก็ตาม [คือเชื่อก็ตาม ไม่เชื่อก็ตาม แต่ในบทภาชนีย์คัมภีร์วิภังค์ 06,0047,009,แก้ความว่า ถูกซักถามก็ตาม ไม่ถูกซึกถามก็ตาม] ก็เป็นต้อง 06,0047,010,อาบัติแล้ว มุ่งความหมดจด [คือพ้นโทษ] จะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า 06,0047,011,แน่ะท่าน ข้าพเจ้าไม่รู้ ได้กล่าวว่ารู้ ไม่เห็น ได้กล่าวว่าเห็น ได้พูด 06,0047,012,พล่อย ๆ เป็นเท็จเปล่า ๆ เว้นไว้แต่สำคัญว่าได้บรรลุ แม้ภิกษุนี้ 06,0047,013,ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้. 06,0047,014,ในคัมภีร์วิภังค์ แจกบทอุตตริมนุสสธรรมไว้เป็นอันมาก จะ 06,0047,015,แสดงทั้งนั้นเกรงจะฟั่นเฝือ จะกล่าวแต่ชื่อก็ไม่มีประโยชน์อะไรนัก 06,0047,016,นอกจากเป็นหัวข้อสำหรับผู้ได้เคยสนใจ ในที่นี้จักกล่าวแต่โดยเค้า 06,0047,017,เงื่อนเท่านั้น. อุตตริมนุสสธรรม แปลว่า คุณอย่างยวดยิ่งของมนุษย์ 06,0047,018,หรือแปลว่า คุณของมนุษย์ผู้ยวดยิ่ง ความก็ลงรอยเดียวกัน. คน 06,0047,019,ในครั้งนั้น เขานับถือการทำใจให้เป็นสมาธิลงได้ และการทำใจให้ 06,0047,020,บริสุทธ์ปราศจากกิเลสว่า เป็นความรู้อย่างสูง เพราะผลวิเศษต่าง ๆ