Book,Page,LineNumber,Text 06,0021,001,กัณฑ์ที่ ๓ 06,0021,002,สิกขาบท 06,0021,003,พระบัญญัติมาตราหนึ่ง ๆ เป็นสิกขาบทอันหนึ่ง ๆ. สิกขาบทนั้น 06,0021,004,ทรงตั้งขึ้นด้วยเป็นพุทธอาณา ที่ได้แก่อาทิพรหมจริยกาสิกขาก็มี ทรง 06,0021,005,ตั้งขึ้นด้วยเป็นอภิสมาจาร คือขนบธรรมเนียม ที่ได้แก่อภิสมาจาริกา- 06,0021,006,สิกขาก็มี. อย่างก่อนนั้น มาในพระปาติโมกข์ มีพระพุทธานุญาต 06,0021,007,ให้สวดในที่ประชุมสงฆ์ทุกกึ่งเดือน. อย่างหลังนั้น มานอกจากพระ- 06,0021,008,ปาติโมกข์ เว้นไว้แต่เสขิยวัตรซึ่งมาในพระปาติโมกข์ กระทู้นี้เป็น 06,0021,009,สำคัญควรใส่ใจ. ในหนังสือนี้ จักตั้งกระทู้นี้เป็นหลัก และจักพรรณนา 06,0021,010,ความตามกระทู้นี้. 06,0021,011,จำนวนแห่งสิกขาบท มาในพระปาติโมกข์มีพอประมาณ จำนวน 06,0021,012,แห่งสิกขาบท มานอกพระปาติโมกข์มีมากกว่ามาก จนพ้นความใส่ใจ 06,0021,013,ของผู้ศึกษา เรียกว่าพ้นคณนาก็ได้. นอกจากนี้ ยังมีข้อปรับอาบัติ 06,0021,014,อันพระคันถรจนาจารย์ตั้งเพิ่มเติมเข้าไว้อีก เรียกว่าบาลีมุตตกทุกกฎ. 06,0021,015,สิกขาบทเหล่านี้ ย่อมปรากฏเห็นเป็นมากจนฟั่นเฝือ เหลือที่จะประพฤติ 06,0021,016,ให้ครบครันได้ ทั้งกาลเทศะก็เข้ามาเป็นเหตุขัดขวางด้วย ภิกษุทั้งหลาย 06,0021,017,จึงได้หาทางหลีกเลี่ยงบ้าง เลิกเสีย กล่าวคือทนเป็นอาบัติเอาบ้าง เมื่อ 06,0021,018,เลิกอย่างหนึ่งแล้ว ก็ชวนให้เลิกอย่างอื่นต่อไปอีก แม้ยังไม่ถึงเวลา. 06,0021,019,พระศาสดา ทรงคำนึงเห็นเหตุนี้มาแล้ว เมื่อจะนิพพาน ได้ประทาน 06,0021,020,พระพุทธานุญาตไว้ว่า ถ้าสงฆ์ปรารถนา ก็จงถอนสิกขาบทเล็กน้อยได้.