Book,Page,LineNumber,Text 06,0009,001,ธรรมเนียมซึ่งเรียกว่าอภิสมาจาร เพื่อชักนำความประพฤติของภิกษุสงฆ์ 06,0009,002,ให้ดีงาม ดุจบิดาผู้เป็นใหญ่ในสกุล ฝึกปรือบุตรของตนในขนบ 06,0009,003,ธรรมเนียมของสกุลฉะนั้น. 06,0009,004,พระพุทธบัญญัติและอภิสมาจารทั้ง ๒ นี้ รวมเรียกว่าพระวินัย 06,0009,005,พระวินัยนี้ ท่านเปรียบเหมือนด้ายร้อยดอกไม้ อันควบคุมดอกไม้ 06,0009,006,ไว้ไม่ให้กระจัดกระจาย เพราะเหตุรักษาสงฆ์ให้ตั้งอยู่เป็นอันดี. อีก 06,0009,007,อย่างหนึ่ง คนที่มาบวชเป็นภิกษุจากสกุลต่าง ๆ สงบ้าง กลางบ้าง 06,0009,008,ต่ำบ้าง มีพ้นเพต่างกันมาแต่เดิม มีน้ำใจต่างกัน หากจะไม่มีพระวินัย 06,0009,009,ปกครอง หรือไม่ประพฤติตามพระวินัย จะเป็นหมู่ภิกษุที่เลวทราม 06,0009,010,ไม่เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาและเลื่อมใส ถ้าต่างรูปประพฤติตามพระวินัย 06,0009,011,อยู่แล้ว จะเป็นหมู่ภิกษุที่ดี นำให้เกิดศรัทธาเลื่อมใส เหมือนดอก 06,0009,012,ไม้ต่างพรรณ เก็บคละกันมาในภาชนะ แม้บางดอกจะมีสีสัณฐานอัน 06,0009,013,งามมีกลิ่นหอม เพราะโทษที่คละกัน ย่อมเป็นของไม่น่าดูไม่น่าชม 06,0009,014,เลย ดอกไม้เหล่านั้น อันช่างผู้ฉลาด จัดให้เข้าระเบียบวางไว้ในพาน 06,0009,015,ย่อมเป็นของน่าดูน่าชม อย่าว่าแต่ดอกไม้ที่งามเลย แม้แต่ดอกไม้ 06,0009,016,ที่ไม่งาม ก็ยังพลอยเป็นของได้ ระเบียบนั่นเองทำให้เป็นของงาม. 06,0009,017,มูลแห่งพระบัญญัติ 06,0009,018,พระวินัยนั้น ไม่ได้ทรงวางไว้ล่วงหน้า ค่อยมีมาโดยลำดับ 06,0009,019,ตามเหตุอันเกิดขึ้น ซึ่งเรียกว่านิทานบ้าง ปกรณ์บ้าง. เมื่อใดความ 06,0009,020,เสียหายเกิดขึ้น เพราะภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ทำอย่างใดอย่างหนึ่งลง