Book,Page,LineNumber,Text 05,0014,001,กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ ให้สรรพอาสวะทั้งปวงปราศไป 05,0014,002,เป็นนิรินธนพินาศ. สิกขาทั้ง ๓ เป็นปฏิปทาทางแห่งวิมุตติ ๆ เป็น 05,0014,003,แก่นแห่งพระธรรมวินัย สาวกจะบรรลุวิมุตตินั้นได้ ก็ด้วยทำให้ 05,0014,004,"บริบูรณ์ในไตรสิกขานั้น.""" 05,0014,005,[เสด็จโภคนคร] 05,0014,006,ครั้งนั้น สมเด็จพระผู้มีพระภาค เสด็จทำสัตตุปการกิจ ประทับ 05,0014,007,ณ บ้านภัณฑุคาม ตามพุทธอัธยาศัยแล้ว ก็เสด็จพุทธดำเนินไปยังบ้าน 05,0014,008,หัตถีคาม และบ้านอัมพคามและชัมพุคาม ล่วงไปตามลำดับ เสด็จ 05,0014,009,จากบ้านชัมพุคามไปยังโภคนคร เสด็จประทับอยู่ ณ อานันทเจดีย์ใน 05,0014,010,เขตโภคนครนั้น ตรัสเทศนามหาปเทส ๔ ฝ่ายพระสูตร สอนภิกษุ 05,0014,011,บริษัท เพื่อจะเป็นเครื่องกำหนดรู้ซึ่งภาษานั้น ๆ ว่า เป็นธรรม เป็น 05,0014,012,วินัย เป็นสัตถุศาสนา และมิใช่ธรรม มิใช่วินัย มิใช่สัตถุศาสนา. 05,0014,013,"ความในสุตตันติกมหาปเทสทั้ง ๔ นั้นว่า ""ถ้าจะมีภิกษุมาอ้าง" 05,0014,014,พระศาสดาก็ดี อ้างสงฆ์ อ้างคณะ อ้างบุคคลก็ดี แล้วแสดงว่า 'นี้ 05,0014,015,เป็นธรรมเป็นวินัย เป็นสัตถุศาสนา' ดั่งนี้ แก่ผู้ใด เธอผู้ได้ฟัง อย่า 05,0014,016,พึงรีบยินดีรับภาษิตของผู้มาอ้างนั้น และอย่าพึงห้ามภาษิตนั้นก่อน 05,0014,017,ให้พึงเรียนบทพยัญชนะให้แน่นอนแล้ว พึงสอบในสูตร พึงเทียบได้ 05,0014,018,กันในวินัย. ถ้าภาษิตนั้นไม่สอบในสูตร ไม่เทียบได้กันในวินัยแล้วไซร้พึง 05,0014,019,เข้าใจว่ามิใช่คำของพระผู้มีพระภาค เธอผู้นี้รับมาผิด จำมาเคลื่อน 05,0014,020,คลาดแน่แล้ว. ต่อเมื่อใดมาสอบในสูตรและเทียบในวินัยก็ได้กัน ไม่