Book,Page,LineNumber,Text 21,0030,001,จาคานุสสติกัมมัฏฐานนั้น พึงทำใจให้ยินดีรักใคร่ในอันบริจาคทานก่อน 21,0030,002,อนึ่ง พึงตั้งจิตไว้ว่า ตั้งแต่นี้ไป เมื่อปฏิคาหกผู้จะรับทานมีอยู่ เรา 21,0030,003,ไม่ได้ให้ทานโดยที่สุดแต่ข้าวก้อนหนึ่งแล้ว เราจะไม่บริโภคเลยเป็น 21,0030,004,อันขาดทีเดียว ในวันเมื่อจะเจริญจาคานุสสติกัมมัฏฐานนั้น พึงให้ทาน 21,0030,005,แก่ปฏิคาหกอันทรงคุณเป็นอันดี แล้วพึงถือเอาซึ่งนิมิตคือออการใน 21,0030,006,ทานที่คนให้ด้วยบริจาคเจตนานั้น แล้วพึงเข้าไปยังเสนาสนะอันสงัด 21,0030,007,มีนัยดังกล่าวแล้วแต่หลัง แล้วพึงระลึกถึงซึ่งอันบริจาคทานของตน ที่ 21,0030,008,ประกอบด้วยคุณมีความปราศจากตระหนี่เป็นต้น ว่าเป็นลาภของเรา 21,0030,009,แล้วหนอ เราได้ชาติเกิดเป็นมนุษย์นี้ ชื่อว่าได้ด้วยดีแล้วหนอ เพราะ 21,0030,010,เราอยู่บัดนี้ด้วยจิตปราศจากตระหนี่ เรามีอันบริจาคสละปล่อยออก 21,0030,011,แล้ว มีมือล้างเปียกอยู่เป็นนิตย์ เพื่อจะหยิบไทยธรรมให้โดยเคารพ 21,0030,012,เราเป็นผู้ยินดีแล้วในอันบริจาคทาน เราเป็นผู้ควรเพื่ออันขอของผู้อื่น 21,0030,013,ผู้อื่นมาของสิ่งไรเราก็ให้สิ่งนั้นตามประสงค์ เราเป็นผู้ยินดีแล้วใน 21,0030,014,อันให้และอันแจกเฉลี่ยของให้แก่ผู้อื่น เมื่อโยคาพจรกุลบุตรมาระลึก 21,0030,015,ถึงอันบริจาคทานของตนโดยนิยมดังนี้ จิตก็จะปราศจากนีสรณธรรม 21,0030,016,ตั้งมั่นเป็นขณิกสมาธิและอุปจารสมาธิโดยลำดับ. 21,0030,017,วินิจฉัยในจาคานุสสติ ยุติแต่เท่านี้. 21,0030,018,จะวินิจฉัยในเทวตานุสสติต่อไปว่า โยคาพจรกุลบุตรผู้จะเจริญ 21,0030,019,เทวตานุสสติกัมมัฏฐานนั้น พึงทำจิตให้ประกอบด้วยคุณคือศรัทธา 21,0030,020,ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา ก่อน แล้วพึงไปยังที่สงัดเงียบ แล้วพึงตั้ง 21,0030,021,ไว้ซึ่งท่านผู้มีคุณทั้งหลาย ที่เกิดในคติอันดี บริบูรณ์ด้วยสุขสมบัติ