Book,Page,LineNumber,Text 46,0031,001,เหตุนั้น บุคคลนั้น ชื่อว่า ปฏิวานี. ผู้มีความย่อหย่อนหามิได้ ชื่อว่า 46,0031,002,อปฺปฏิวานี. ข้อปฏิบัติเป็นส่วนเบื้องต้น กล่าวคือ สมถะและวิปัสสนา 46,0031,003,ชื่อว่า อาคมนียปฺปฏิปทา. ก็ปฏิปทานั้นชื่อว่า อาคมนิยา เพราะเป็น 46,0031,004,เหตุมา คือบรรลุคุณวิเศษแห่งการกบุคคลทั้งหลาย หรือเป็นเครื่อง 46,0031,005,มาแห่งการบรรลุคุณวิเศษ. ข้อปฏิบัตินั้นนั่น แล ชื่อว่า ปฏิปทา 46,0031,006,เพราะอันบุคคลพึงปฏิบัติ เหตุนั้น ข้อปฏิบัตินั้น จึงชื่อว่า อาคมนียปฺ- 46,0031,007,ปฏิปทา. ความเพียรที่เว้นจากการท้อถอย คือความเพียรอันบุคคล 46,0031,008,"กระทำไม่ย่อหย่อนในระหว่าง ชื่อว่า อปฺปฏิวานปฺปธานํ. """ 46,0031,009,[๔๙๐] เพราะเหตุนั้น ใคร ๆ ไม่ควรละความเพียร. ถ้าบุคคล 46,0031,010,อาศัยปัจจัยเช่นนั้นละความเพียรเสียในกาลก่อน ในภายหลังก็ควรพยุง 46,0031,011,ขึ้นให้ได้ ดังภิกษุผู้ละความเพียรฉะนั้น. 46,0031,012,[ เรื่องภิกษุผู้สละความเพียร ] 46,0031,013,ดังได้สดับมา ภิกษุนั้น เรียนกัมมัฏฐานในสำนักพระศาสดาแล้ว 46,0031,014,เข้าสู่ป่า แม้พยายามอยู่สิ้น ๓ เดือน ก็ไม่อาจยังคุณวิเศษอะไร ๆ 46,0031,015,"ให้เกิดขึ้นได้ จึงคิดว่า "" บรรดาบุคคล ๔ จำพวกที่พระศาสดาตรัส" 46,0031,016,ไว้ เราจะพึงเป็นบุคคลจำพวกปทปรมะ ชะรอยมรรคผลจะไม่มีแก่เรา 46,0031,017,"ในอัตภาพนี้, จะต้องการอะไรด้วยการอยู่ป่า เราจักไปสู่สำนักพระ" 46,0031,018,"ศาสดาแล้ว ดูพระรูปพระพุทธเจ้า ฟังธรรมอันไพเราะอยู่ "" ดังนี้" 46,0031,019,แล้ว จึงกลับสู่พระเชตวัน. 46,0031,020,ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายทราบเหตุนั้น นำเธอไปยังสำนักพระ 46,0031,021,"ศาสดา กราบทูลว่า "" พระเจ้าข้า ภิกษุนี้ละความเพียรมาแล้ว. """