Book,Page,LineNumber,Text
46,0030,001,สติ คือ อันเราไม่ได้แล้วด้วยความประมาณดุจหลับแล้ว. ญาณอัน
46,0030,002,สหรคตด้วยมรรค ๔ และพระสัพพัญญุตญาณ ชื่อว่า โพธิ. ก็โพธิ-
46,0030,003,ญาณนั่น ใคร ๆ ผู้ประมาทดุจผู้หลับ ไม่อาจบรรลุได้เลย ดังนี้แล.
46,0030,004,"ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า "" อปฺปมาทาธิคตา โพธิ. """
46,0030,005,สองบทว่า อนุตฺตโร โยคกฺเขโม ความว่า ไม่ใช่แต่ปัญญาเครื่อง
46,0030,006,"ตรัสรู้อย่างเดียวเท่านั้น, แม้ธรรมเป็นแดนเกษมจากโยคะอันยอดเยี่ยม"
46,0030,007,กล่าวคือพระอรหัตผลและพระนิพพาน เราก็ได้บรรลุด้วยความไม่
46,0030,008,ประมาทเหมือนกัน. บัดนี้ เมื่อจะทรงชักชวนภิกษุสงฆ์ในคุณที่พระ
46,0030,009,"องค์ได้แล้ว จึงตรัสคำว่า "" ตุมฺเห เจปิ ภิกฺขเว "" เป็นอาทิ. บรรดา"
46,0030,010,บทเหล่านั้น บทว่า ยสฺสตฺถาย ความว่า เป็นผู้ประสงค์จะเข้าถึง
46,0030,011,อยู่ เพื่อประโยชน์แก่อริยผลใด. บทว่า ตทนุตฺตรํ ตัดบทเป็น ตํ
46,0030,012,อนุตฺตรํ ( แปลว่า ซึ่งอริยผลอันยอดเยี่ยมนั้น ) บทว่า พรฺหฺมจริย-
46,0030,013,ปริโยสานํ คือ อริยผลอันมีในที่สุดแห่งมรรคพรหมจรรย์. สองบทว่า
46,0030,014,อภิฺา สจฺฉิกตฺวา ความว่า กระทำให้ประจักษ์ด้วยอภิญญา คือ
46,0030,015,ด้วยปัญญาอันสูงสุด. บทว่า อุปสมฺปชฺช ความว่า จักได้เฉพาะ คือ
46,0030,016,บรรลุอยู่. บทว่า ตสฺมา คือ เพราะชื่อว่าการตั้งความเพียรโดยมิย่อ
46,0030,017,"หย่อนนั่น มีอุปการะมาก คือ ให้ประโยชน์อันสูงสุดสำเร็จ. """
46,0030,018,"[๔๘๙] ฎีกาจตุรังควิริยสูตรนั้นว่า "" เมื่อกระแสแห่งความเพียร"
46,0030,019,"เป็นไปอยู่, ความหวนกลับ คือความกลับหลัง ได้แก่ ความย่อหย่อน"
46,0030,020,ในระหว่างก็ย่อมมีเหมือนกัน. ความย่อหย่อนนั้น มีอยู่แก่บุคคลนั้น