Book,Page,LineNumber,Text 46,0011,001,"ซุ้มประตู และห้องเป็นต้น เป็นอันบุคคลระวังดีแล้วก็จริง, ถึงกระ- " 46,0011,002,นั้น สิ่งของทั้งปวงภายในพระนคร ย่อมชื่อว่าอันบุคคลไม่ได้รักษา 46,0011,003,"คุ้มครองอยู่นั่นเอง, เพราะพวกโจรพากกันเข้าไปทางประตูพระนคร" 46,0011,004,แล้ว พึงทำโจรกรรมที่พวกตนปรารถนาได้ฉันใด; เมื่อโทษมีโทษ 46,0011,005,"เครื่องทุศีลเป็นต้น เกิดขึ้นในชวนะ เมื่ออสังวรนั้นมีอยู่, ทวารก็ดี" 46,0011,006,ภวังคจิตก็ดี วิถีจิตมีอาวัชชนะเป็นต้นก็ดี ย่อมเป็นอันภิกษุไม่ได้คุ้มครอง 46,0011,007,ฉันนั้นเหมือนกัน. ก็เมื่อคุณทั้งหลายมีศีลเป็นต้น เกิดขึ้นในชวนะ 46,0011,008,"นั้น, ทวารก็ดี ภวังคจิตก็ดี วิถีจิตมีอาวัชชนะเป็นต้นก็ดี ย่อม" 46,0011,009,"เป็นอันภิกษุคุ้มครองแล้ว, เปรียบเหมือนอะไร ? เปรียบเหมือน" 46,0011,010,เมื่อประตูพระนครทั้งหลายอันบุคคลระวังแล้ว แม้ภายในเรือนเป็นต้น 46,0011,011,"บุคคลจะไม่ระวังเลยก็จริง, ถึงกระนั้น สิ่งของทั้งปวงภายในพระนคร" 46,0011,012,"ชื่อว่า เป็นอันบุคคลรักษาดี คุ้มครองดีทีเดียว, เพราะเมื่อประตู" 46,0011,013,พระนครอันบุคคลปิดไว้ พวกโจรก็เข้าไปไม่ได้ฉันใด; เมื่อคุณมีศีล 46,0011,014,เป็นต้น เกิดขึ้นในชวนะ. ทวารก็ดี ภวังคจิตก็ดี วิถีจิตมีอาวัชชนะ 46,0011,015,เป็นต้นก็ดี ย่อมเป็นอันภิกษุคุ้มครองแล้วฉันนั้นเหมือนกัน. เพราะ 46,0011,016,เหตุนั้น สังวรที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะแห่งชวนะ พระผู้มีพระภาคจึงตรัส 46,0011,017,"ว่า ""ความสำรวมในอินทรีย์คือจักษุ"" ดังนี้.""" 46,0011,018,"[๔๗๗] ฎีกาสัพพาสวสูตร ในมูลปัณณาสก์ว่า ""อกุศลธรรม" 46,0011,019,อันเป็นข้าศึกต่อสติ ชื่อว่า ความเป็นผู้มีสติฟั่นเฟือน. การกำหนด 46,0011,020,"จิตมีอยู่ดังนี้ว่า ""ภวังคจิตนับไม่ถ้วน เกิดขึ้นในวิถีอื่นต่อเนื่องกันไป" 46,0011,021,"ก็จริง, ถึงอย่างนั้น ในระหว่างการเกิดขึ้นแห่งอาวัชชนะ เพราะ"