Book,Page,LineNumber,Text 39,0048,001,ในเรื่องนี้ นิสัยของลาไม่ขอบู่เป็นแน่นอน เมื่อถูกขู่เข้าก็ชัก 39,0048,002,แค้น จึงกล่าวคาถานี้ว่า :- 39,0048,003,[ ๓๕ ] ปโตปมฺเม กริสฺสสิ ถ้าท่านจักลงปฏักมีหนามยาวตั้ง 39,0048,004,โสฬสงฺคุลิกณฺฏกํ ๑๖ องคุลี แก่ข้าพเจ้า 39,0048,005,ปุรโต ปติฏฺ€หิตฺวาน ข้าพเจ้าจักยันข้างหน้า ยกข้างหลัง 39,0048,006,อุทฺธริตฺวาน ปจฺฉโต 39,0048,007,ภณฺทํ เต ปาตยิสฺสามิ จักสลัดสินค้าของท่านให้ตกไป 39,0048,008,เอวํ ชานาหิ กปฺปก. ท่านจงรู้อย่างนี้ นะพ่อกัปปกะ ! 39,0048,009,ลาถูกนายกัปปกะขู่แล้ว ก็ชักให้เดือดร้อน เพราะจะต้องจำใจไป 39,0048,010,อันเป็นเหตุให้พรากจากนางลาคู่รัก แต่ถึงอย่างไร ลาก็ได้คิดแก้แค้น 39,0048,011,จะแกล้งนายกัปปกะบ้าง เป็นต้นว่าเวลาลากเกวียนไป จะทำเป็นพยศ 39,0048,012,ยันเท้าหน้ายกเท้าหลัง แกล้งเขย่าให้สินค้าหล่นเรี่ยราด. 39,0048,013,ลากลายเป็นสัตว์ดื้อด้านไปเช่นนี้ เพราะอะไร ? เป็นเรื่องควรถกให้ 39,0048,014,เข้าใจกันได้อยู่ การรักกันในระหว่างผู้เมีย ย่อมเป็นเหตุให้หลงสัก 39,0048,015,"เพียงไร ? พึงเห็นในข้อว่า "" รักเมียเสียญาติ "" ชนิดนี้รักจนหลง เป็น" 39,0048,016,เหตุให้ลืมเจ้าบุญนายคุณอื่น ๆ ได้ อย่างจะไม่ต้องกล่าวถึงอะไร เช่น 39,0048,017,ผัวเมียกันเอง อยู่กันมาตั้งแต่หนุ่มคุ้มแก่ ภายหลังมาเปลี่ยนตัว เช่นได้ 39,0048,018,สาวมาบำเรอใหม่ ยังคลายรักของเก่าได้ ถึงหลงไม่เป็นท่าก็มี นี้ก็เข้า 39,0048,019,"ในข้อว่า "" ควายแก่กินหญ้าอ่อน "" ย่อมจะเคี้ยวนุ่มเหงือก ชวนให้" 39,0048,020,เพลินฉันใด แม้ได้คู่ใหม่ ถ้าไม่มีสติคุมไว้ก็ฉันนั้น เจ้าลานี่ก็เพราะ 39,0048,021, 39,0048,022,๓๕. ธมฺ. ๑/๑๑๕