Book,Page,LineNumber,Text 39,0021,001,มฺามิ ตุวํ มริสฺสสิ ข้าพเจ้าเข้าใจว่า ท่านจักตาย เสีย 39,0021,002,เปล่า 39,0021,003,น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทสูริเย. เห็นจะไม่ได้พระจันทร์ และพระ 39,0021,004,อาทิตย์ทั้ง ๒ เลยเป็นแน่. 39,0021,005,เมื่อเทพบุตรถูกพราหมณ์พูดตัดพ้อว่าเป็นคนเขลาเป็นต้นแล้ว คราว 39,0021,006,นี้ได้ท่าจึงพูดกะพราหมณ์นั้นว่า บุคคลที่ร้องไห้อยากได้ของที่มองเห็น 39,0021,007,อยู่ด้วยลูกตา จะชื่อว่าเป็นคนเขลาด้วยหรือ หรือว่าบุคคลที่ร้อง 39,0021,008,ไห้อยากได้ของที่มองไม่เห็นด้วยลูกตา จะชื่อว่าเป็นคนเขลาเล่า ครั้น 39,0021,009,พูดดังนี้แล้ว จึงได้กล่าวเป็นคาถาว่า :- 39,0021,010,[ ๑๔ ] คมฺนาคมนํปิ ทิสฺสติ แม้การโคจรไปมา ( ของพระจันทร์ 39,0021,011,และพระอาทิตย์ทั้ง ๒ ดวง ) ก็ยัง 39,0021,012,ปรากฏอยู่ 39,0021,013,วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา ธาตุคือรัศมี ( แห่งพระจันทร์และ 39,0021,014,พระอาทิตย์ทั้ง ๒ ดวง ) ก็ยังปรากฏ 39,0021,015,อยู่ในวิถีทั้ง๒ 39,0021,016,เปโต กาลกโต น ทิสฺสติ ส่วนคนที่ตายล่วงไปแล้ว ย่อมไม่ 39,0021,017,ปรากฏเลย 39,0021,018,โก นีธ กนฺทตํ พาลฺยตโร. ( เหตุนั้น บรรดาเราทั้ง ๒ คน ซึ่ง 39,0021,019,คร่ำครวญอยู่ ณ ที่นี้ ก็ใครเล่าจะ 39,0021,020,ชื่อว่าเป็นคนเขลากว่ากัน. 39,0021,021, 39,0021,022,๑๔. ธมฺ. ๑/๒๘