Book,Page,LineNumber,Text 39,0012,001,นายปาลิตะได้ยินคำรำพันของพระเถระแล้ว ก็ชักให้มีความสังเวช 39,0012,002,สลดจิต คิดเห็นโทษของตัวว่า เรากระทำกรรมหนักเป็นไปโดยด่วน 39,0012,003,ไม่สมควรเลยหนอ ดังนี้ แล้วเสียอกเสียใจ กอดแขนร้องไห้วิ่งเข้าราวป่า 39,0012,004,ไป ได้หลีกหลบหน้าไปโดยประการนั้นแล้ว. 39,0012,005,อันความผิดของเธอ หากเป็นไปในครั้งนี้นั้น เป็นไปด้วยความ 39,0012,006,ผลุนผลัน ไม่ทันพิจารณาโดยแยบคาย เป็นวิสัยแห่งทุรชนคนชั่วชาติ 39,0012,007,เหตุนั้น ท่านจึงสอนให้รู้สึก แล้วไม่ควรเพลิดเพลินโดยส่วนเดียวว่า 39,0012,008,""" นนฺทิ ทุกฺขสฺส มลํ "" แปลโดยพยัญชนะว่า "" ความเพลิดเพลินเป็น" 39,0012,009,"มูลแห่งทุกข์ "" โดยความว่า ""รักสนุกทุกข์สนัด "" อาศัยเหตุเช่นนี้" 39,0012,010,ไม่ว่าการใด ๆ ท่านจึงสอนให้พิจารณาเสียก่อนได้เป็นการดี สมด้วย 39,0012,011,"บาลีว่า "" นิสมฺม การณํ เสยฺโย "" ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำดีกว่า" 39,0012,012,""" กตสฺส นตฺถิ ปฏิการํ "" เพราะสิ่งทีทำแล้วจะทำคืนไม่ได้ ในเรื่องนี้" 39,0012,013,นายปาลิตะทำชั่วแล้ว ก็ทำคืนไม่ได้ แม้จะพูดประจับพระเถระสักเท่าไร ๆ 39,0012,014,ท่านก็ไม่ยอมคบหา เลยเสียใจวิ่งเข้าป่าไป ทิ้งพระเถระไว้กลางดง. 39,0012,015,ด้วยเดชะของพระเถระ ในขณะนั้น บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ( ที่ 39,0012,016,ท่านพรรณนาว่าแผ่นศิลาที่ประทับมีสีดุจผ้ากัมพลเหลือง ) ของท้าวสักก- 39,0012,017,เทวราช ยาว ๖๐ โยชน์ กว้าง ๕๐ โยชน์ หนา ๑๕ โยชน์ มีสีดุจ 39,0012,018,ดอกชัยพฤกษ์ มีปกติยุบลงในเวลาประทับ และฟูขึ้นในเวลาเสด็จขึ้น 39,0012,019,แสดงอาการร้อนแล้ว ( ที่เรียกว่าพระอินทร์ร้อนอาสน์ ) ท้าวสักกเทวราช 39,0012,020,จึงได้มีเทวดำริว่า ใครหนแล ใคร่จะยังเราให้เคลื่อนจากสถาน ดังนี้