Book,Page,LineNumber,Text 13,0030,001,อุ. ที่ ๒ 13,0030,002,"อมตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ, [ สามาวตี. ๒/๖๘ ] ""นิพพาน เรียกว่า" 13,0030,003,"อมตะ.""" 13,0030,004,อุ. ที่ ๓ 13,0030,005,"มนฺตา วุจฺจติ ปญฺา. [ โกกาลิก. ๘/๕๙] ""ปัญญา" 13,0030,006,"เรียกว่า มันตา.""" 13,0030,007,สัมภาวนะ ลักษณะนี้ โบราณแปลว่า 'ให้ชื่อว่า' ดัง อุ. มนฺตา 13,0030,008,"วุจฺจติ ปญฺา นั้น แปลยกศัพท์ว่า ปญฺา ปัญญา, ภควตา อัน" 13,0030,009,"พระผู้มีพระภาค, มนฺตา ให้ชื่อวา มันตา, วุจฺจติ ย่อมตรัสเรียก." 13,0030,010,[ ๒ ] ที่เรียกชื่อว่า สัมภาวนะ เพราะยกขึ้นว่าดุจสัมภาวนบุพพบท 13,0030,011,"กัมมธารยสมาส, โดยนัยนี้ คำว่า สัมภาวนะ ในที่นี้ จึงมิได้หมาย" 13,0030,012,ความว่า สรรเสริญที่คู่ติเตียน หมายความเพียงยกขึ้นว่าเช่นเดียวกับ 13,0030,013,สัมภาวบุพพท กัมมมธารยสมาสเท่านั้น. อนึ่ง ที่เรียกว่าอาการ 13,0030,014,เพราะแปลว่า ' ว่า ' ดุจ อิติ ศัพท์ที่เป็นอาการ. ในโยชนาใช้ชื่อ 13,0030,015,หลังนี้ เช่น อุ. ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขานติ นั้น ในโยชนาบอก 13,0030,016,สัมพันธ์ว่า อคฺคํ อาการใน อกฺขายติ. 13,0030,017,"สรูปอธิบาย : สัมภาวนะ เป็นเครื่องยกขึ้นว่า หรือเป็นอาการ," 13,0030,018,เข้ากับกิริยาว่ารู้ ว่ากล่าว เป็นต้น. 13,0030,019,สรูป 13,0030,020,(๒) เป็นคุณนามก็ดี เป็นนามนามแต่ใช้ดุจคุณนามก็ดี ที่เข้า 13,0030,021,กับอิติศัพท์ เรียกชื่อว่า สรูปํ อุ :-