Book,Page,LineNumber,Text 45,0013,001,ไม่ปรารถนาจะไปภิกษุเจ้าของถิ่นพึงส่งพวกภิกษุที่เหลือไปแล้ว จึงพาเธอ 45,0013,002,ไปเที่ยวบิณฑบาต. พึงให้อามิสที่ตนได้มาแก่เธอ. อามิสปฏิสันถาร ชื่อว่า 45,0013,003,อันภิกษุทำแล้วโดยเอกเทศ ด้วยประการดังนี้. ถามว่า ก็ภิกษุผู้ปฏิสันถาร 45,0013,004,พึงให้อามิสที่ตนได้มาแก่ใคร ? แก้ว่า พึงให้แก่ภิกษุอาคันตุกะก่อน. 45,0013,005,ถ้าภิกษุไข้หรือภิกษุผู้ไม่มีพรรษามีอยู่ พึงให้แม้แก่ภิกษุเหล่านั้น. พึงให้ 45,0013,006,แก่อาจารย์และอุปัชฌายะ. พึงให้แก่คนผู้ถือสิ่งของ. สำหรับภิกษุผู้ 45,0013,007,บำเพ็ญสาราณียธรรมพึงให้แก่ภิกษุอาคันตุกะผู้มาแล้ว ๆ ตั้ง ๑๐๐ ครั้ง 45,0013,008,ตั้ง ๑๐๐๐ ครั้ง ตั้งแต่ เถรอาสน์ลงมา. อนึ่ง อันภิกษุผู้ปฏิสันถารพึง 45,0013,009,ให้แก่ภิกษุนั้น ๆ ผู้ยังมิได้. ภิกษุผู้ปฏิสันถารออกไปนอกบ้าน พบคน 45,0013,010,แก่ คนอนาถา หรือภิกษุ พึงให้แม้แก่คนเหล่านั้น. 45,0013,011,ในข้อนั้น มีเรื่องดังต่อไปนี้ ( เป็นอุทาหรณ์ ) :- 45,0013,012,[ ตัวอย่างผู้ทำอามิสปฏิสันถาร ] 45,0013,013,[๒๗๓] ดังได้สดับมา เมื่อบ้านภุตตสาลคามถูกพวกโจรปล้น 45,0013,014,พระเถรีขีณาสพรูปหนึ่ง ออกจากนิโรธสมาบัติในขณะนั้นเอง ใช้นาง 45,0013,015,ภิกษุณีสาวให้ถือห่อสิ่งของเดินทางไปพร้อมกับมหาชน ในเวลาเที่ยง 45,0013,016,ถึงประตูบ้านนังกุลนคร จึงนั่งพักอยู่ที่โคนไม้. 45,0013,017,ในสมัยนั้น พระมหานาคเถระ ผู้อยู่ที่กาฬวัลลีมณฑป เที่ยว 45,0013,018,บิณฑบาตในบ้านนังกุลนครแล้ว ออกมาพบพระเถรี จึงเอื้อถามด้วย 45,0013,019,"ภัตตาหาร. พระเถรีนั้น กล่าวว่า "" บาตรของดิฉันไม่มี."" พระเถระ" 45,0013,020,"กล่าวว่า "" นิมนต์ฉันด้วยบาตรนี้แหละ "" ดังนี้แล้ว ก็ได้ถวายพร้อม" 45,0013,021,ทั้งบาตร.