Book,Page,LineNumber,Text
39,0049,001,ติดคู่ จึงลืมกลัวนายกัปปกะผู้เป็นนายของตน กลับพูดเสียงแข็งเอาได้.
39,0049,002,ครั้นนายกัปปกะได้ฟังคำลาพูดแปลกไปเช่นนั้น คิดสอบดูว่า เป็น
39,0049,003,ด้วยเหตุอะไรหนอ ลาจึงพูดกะเราอย่างนี้ได้ เมื่อเหลียวไปแลมาเพื่อค้น
39,0049,004,ดูเหตุ พบนางลาเข้าตัวหนึ่ง จึงลงสันนิษฐานเอาว่า คงเป็นนางลาตัวนี้
39,0049,005,เอง สอนให้พูดอย่างนี้ จำเราจะล่อมันว่า จะหาเมียมีรูปอย่างนี้ให้
39,0049,006,ครั้นแล้วก็จะพามาได้ เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว จึงได้กล่าวคาถานี้ว่า :-
39,0049,007,[ ๓๖ ] จตุปฺปทึ สงฺขมุขึ เราจักนำนางลาเป็นสัตว์ ๔ เท้า
39,0049,008,นารึ สพฺพงฺคโสภินึ มีหน้าขาวเหมือนสังข์ งามทั่ว
39,0049,009,ภริยํ เต อานยิสฺสามิ สรรพางค์กาย มาให้เป็นเมียของเจ้า
39,0049,010,เอวํ ชานาหิ คทฺรภ. เจ้าจงรู้อย่างนี้เถิด นะลา !
39,0049,011,นายกัปปกะเห็นลาแสดงอาการกระด้างกระเดื่อง ไม่พอใจจะกลับ
39,0049,012,ถิ่นเดิม เพราะมาติดตัวเมียอยู่เช่นนั้น จึงได้พูดล่อลาว่า ถ้ากลับไป
39,0049,013,ข้าจะหาเมียซึ่งมีรูปร่างงามโฉม เหมือนอย่างนางลาตัวนี้ให้แก่เจ้า อัน
39,0049,014,พรรณนาไว้ในคาถานั้น กะความเดาเอาว่า เป็นนางลาที่เหมาะด้วย
39,0049,015,อาการครบเครื่อง เป็นต้นว่ามีเท้าครบ ๔ ไม่ใช่เป็นสัตว์พิกลพิการ
39,0049,016,อวัยวะอย่างหนึ่งอย่างใด และพรรณนาว่ามีสีหน้านวลเป็นใย เปรียบไว้
39,0049,017,ว่าเหมือนสังข์ อันสังข์ที่ขัดแล้ว ย่อมจะมีสีเลื่อมเงาใส แวววาว งามตา
39,0049,018,สักปานไร ? จะดูไปก็ชวนให้น่าพิศวง ถึงนางลาอันงามเหมาะพิเคราะห์
39,0049,019,ดูลักษณะ กะว่าคงไม่ใช่สัตว์ชนเกรียนเหมือนสุนัขขี้เรื้อน คงมีขนอัน
39,0049,020,ละอออ่อนนิ่มนวล ดูเป็นมันขลับจับตาเจ้าลาผู้ อนึ่ง พรรณนาว่า