Book,Page,LineNumber,Text 39,0031,001,คร่ำครวญอยู่ในป่าช้า ได้พบมาณพผู้หนึ่ง ยืนกอดแขนร้องไห้อยู่ใกล้ ๆ 39,0031,002,กัน แล้วก็ตรัสเล่าเรื่องมัฏฐกุณฑลีตั้งแต่ต้นจนอวสาน เรื่องนี้จึงได้ชื่อว่า 39,0031,003,เป็นพระพุทธภาษิตด้วย ครั้นแล้วจึงได้ตรัสอีกว่า พราหมณ์ ! คนที่ 39,0031,004,เลื่อมใสในเราแล้วตายไปเกิดในสวรรค์ ไม่ใช่แต่ร้อยสองร้อยคนเท่านั้น 39,0031,005,มีมากเหลือจะนับ มหาชนได้ฟังดังนี้ก็เอะใจสงสัยเป็นนักหนา ที่ 39,0031,006,ตรัสออกมา เหมือนพระองค์ได้ไปแอบฟังเรื่องมัฏฐกุณฑลีที่ป่าช้าจน 39,0031,007,ตลอด เพื่อจะตัดความเอะใจสงสัยของมหาชน พระองค์จึงได้ทรง 39,0031,008,อธิษฐานว่า ขอให้มัฏฐกุณฑลีเทพบุตาลอยลิ่วมาพร้อมทั้งวิมานเถิด 39,0031,009,เทพบุตรนั้น มีอัตภาพอันประกอบด้วยเครื่องทิพยาภรณ์ สูงประมาณ 39,0031,010,๓ คาวุต มาแล้วลงจากวิมาน ถวายบังคมสมเด็จพระบรมศาสดา นั่ง ณ 39,0031,011,ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้งนั้นสมเด็จพระบรมศาสดา เมื่อจะตรัสถาม 39,0031,012,เทพบุตรนั้นว่า ท่านทำกรรมอะไรไว้ จึงได้สมบัติเห็นปานนี้ ดังนี้แล้ว 39,0031,013,จึงได้ตรัสถามความข้อนั้นเป็นคาถาว่า :- 39,0031,014,[ ๒๔ ] อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน เทพดา ! ท่านมีวรรณะอันงามยิ่ง 39,0031,015,ยา ตฺวํ ติฏฺ€สิ เทวเต นัก ยืนทำทิศทั้งสิ้นให้สว่างอยู่ 39,0031,016,โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา เหมือนดาวประจำรุ่งฉะนั้น 39,0031,017,โอสธี วิย ตารกา 39,0031,018,ปุจฺฉามิ ตํ เทว มหานุภาว เทพดา ! ผู้มีอานุภาพมาก เราจะ 39,0031,019,มนุสฺสภูโต กิมกาสิ ปุฺํ. ขอถามท่าน เมื่อท่านเป็นมนุษย์ 39,0031,020,ได้ทำบุญอะไรไว้. 39,0031,021, 39,0031,022,๒๔. ธมฺ. ๑/๓๒