Book,Page,LineNumber,Text 33,0013,001,"ของพระผู้น้องชาย. ท่านรับผ้าสาฎกนั้นมาพิจารณาแล้วพูดว่า ""ผ้าสาฎก" 33,0013,002,"ของฉันเนื้อหยาบ ประมาณ ๘ ศอก, ผืนนี้เนื้อละเอียด ประมาณ " 33,0013,003,"๙ ศอก, ผ้านี้มิใช่ผ้าสาฎกของฉัน, นี่เป็นผ้าสาฎกของพี่, ฉันไม่" 33,0013,004,"ต้องการผ้าผืนนี้, พี่จงให้ผ้าสาฎกผืนนั้นแหละแก่ฉัน."" พี่สาวตอบว่า" 33,0013,005,"""ท่านผู้เจริญ นี่เป็นผ้าของท่านทีเดียว, ขอท่านจงรับผ้านั้นเถิด.""" 33,0013,006,ท่านไม่ปรารถนาเลย. 33,0013,007,ลำดับนั้น พี่สาวจึงบอกกิจที่ตนทำทุกอย่างแก่พระเถระนั้นแล้ว 33,0013,008,"ได้ถวายว่า ""ท่านผู้เจริญ นั่นเป็นผ้าของท่านทีเดียว, ขอท่านจงรับผ้า" 33,0013,009,"นั้นเถิด,"" ท่านถือผ้านั้นไปวิหาร เริ่มจีวรกรรม." 33,0013,010,[พระเถระห่วงใยในจีวร ตายแล้วเกิดเป็นเล็น] 33,0013,011,ลำดับนั้น พี่สาวของท่านจัดแจงวัตถุมียาคูและภัตรเป็นต้น เพื่อ 33,0013,012,ประโยชน์แก่ภิกษุสามเณรผู้ทำจีวรของพระติสสะนั้น. ก็ในวันที่จีวร 33,0013,013,เสร็จ พี่สาวให้ทำสักการะมากมาย. ท่านแลดูจีวรแล้ว เกิดความ 33,0013,014,"เยื่อใยในจีวรนั้น คิดว่า ""ในวันพรุ่งนี้ เราจักห่มจีวรนั้น"" แล้ว" 33,0013,015,"พับพาดไว้ที่สายระเดียง, ในราตรีนั้น ไม่สามารถให้อาหารที่ฉัน" 33,0013,016,แล้วย่อยไปได้ มรณภาพแล้ว เกิดเป็นเล็นที่จีวรนั้นนั่นเอง. 33,0013,017,[พระศาสดารับสั่งไม่ให้แจกจีวร] 33,0013,018,ฝ่ายพี่สาว สดับการมรณภาพของท่านแล้ว ร้องไห้กลิ้งเกลือก 33,0013,019,ใกล้เท้าของพวกภิกษุ. พวกภิกษุทำสรีรกิจ (เผาศพ) ของท่านแล้ว 33,0013,020,"พูดกันว่า ""จีวรนั้นถึงแก่สงฆ์ทีเดียว เพราะไม่มีคิลานุปัฏฐาก, พวก" 33,0013,021,"เราจักแบ่งจีวรนั้น"" แล้วให้นำจีวรนั้นออกมา. เล็นวิ่งร้องไปข้างโน้น"