Book,Page,LineNumber,Text 22,0006,001,พระผู้มีพระภาคทรงประสงค์ ในบทว่า วชฺชทสฺสนํ นี้. คนเข็ญใจถูก 22,0006,002,"ผู้อื่นคุกคามก็ดี ตีก็ดี ชี้ขุมทรัพย์ให้ว่า "" แกจงถือเอาทรัพย์นี้ "" ย่อม" 22,0006,003,"ไม่ทำความโกรธ, มีแต่ปราโมทย์อย่างเดียว ฉันใด; เมื่อบุคคลเห็น" 22,0006,004,ปานดังนั้น เห็นมารยาทมิบังควรก็ดี ความพลาดพลั้งก็ดี แล้วบอก 22,0006,005,"อยู่, ผู้รบบอกไม่ควรทำความโกรธ ควรเป็นผู้ยินดีอย่างเดียว ฉันนั้น." 22,0006,006,"ควรปรารถนาทีเดียวว่า "" ท่านเจ้าข้า กรรมอันใหญ่ อันใต้เท้าผู้ตั้ง" 22,0006,007,อยู่ในฐานเป็นอาจารย์ เป็นอุปัชฌาย์ ของกระผมแล้ว สั่งสอนอยู่ 22,0006,008,"กระทำแล้ว, แม้ต่อไป ใต้เท้าพึงโอวาทกระผม "" ดังนี้." 22,0006,009,บทว่า นิคฺคยฺหวาทึ ความว่า ก็อาจารย์บางท่านเห็นมารยาท 22,0006,010,อันมิบังควรก็ดี ความพลั้งพลาดก็ดี ของพวกศิษย์มีสัทธิวิหาริกเป็น 22,0006,011,"อาทิแล้ว ไม่อาจเพื่อจะพูด ด้วยเกรงว่า "" ศิษย์ผู้นี้อุปัฏฐากเราอยู่" 22,0006,012,ด้วยกิจวัตรมีให้น้ำบ้วนปากเป็นต้น แก่เรา โดยเคารพ; ถ้าเราจักว่า 22,0006,013,"เธอไซร้, เธอจักไม่อุปัฏฐากเรา, ความเสื่อมจักมีแก่เรา ด้วยอาการ" 22,0006,014,"อย่างนี้ "" ดังนี้ ย่อมหาชื่อว่าเป็นผู้กล่าวนิคคหะไม่, เธอผู้นั้น ชื่อว่า" 22,0006,015,เรี่ยรายหยากเยื่อลงในศาสนานี้. ส่วนอาจารย์ใด เมื่อเห็นโทษปานนั้น 22,0006,016,แล้ว คุกคาม ประณาม ลงทัณฑกรรม ไล่ออกจากวิหาร ตาม 22,0006,017,สมควรแก่โทษ ให้ศึกษาอยู่. อาจารย์นี้ ชื่อว่าผู้กล่าวนิคคหะ; 22,0006,018,แม้เหมือนอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า. สมจริงอย่างนั้น พระผู้มีพระ- 22,0006,019,"ภาคตรัสคำนี้ไว้ว่า "" ดูก่อนอานนท์ เราจักกล่าวข่ม ๆ, ดูก่อน" 22,0006,020,"อานนท์ เราจักกล่าวยกย่อง ๆ, ผู้ใดเป็นสาระ, ผู้นั้นจักดำรงอยู่ได้. """ 22,0006,021,บทว่า เมธาวึ คือ ผู้ประกอบด้วยปัญญามีโอชะเกิดแต่ธรรม.