Book,Page,LineNumber,Text 19,0023,001,"""เอาเถิด เราเป็นผู้มีจักษุอันเสียแล้ว มาสู่ทาง " 19,0023,002,"ไกลอันกันดาร นอนอยู่ (ก็ช่าง) จะไม่ไป," 19,0023,003,เพราะความเป็นสหายในชนพาลย่อมไม่มี. เอา 19,0023,004,เถิด เราเป็นผู้มีจักษุเสียแล้ว มาสู่ทางไกล 19,0023,005,"อันกันดาร จักตายเสีย จักไม่ไป, เพราะความ" 19,0023,006,"เป็นสหายในชนพาลย่อมไม่มี""" 19,0023,007,"นายปาลิตะ ได้ยินคำนั้นแล้ว เกิดความสังเวช นึกว่า ""เราทำ" 19,0023,008,"กรรมหนัก เป็นไปโดยด่วน ไม่สมควรหนอ"" ดังนี้แล้ว กอดแขน" 19,0023,009,คร่ำครวญ แล่นเข้าราวป่า ได้หลีกไป ด้วยประการนั้นแล. 19,0023,010,[อาสนะท้าวสักกะร้อน] 19,0023,011,ด้วยเดชแห่งศีลแม้ของพระเถระ (ในขณะนั้น) บัณฑุกัมพล- 19,0023,012,สิลาอาสน์ ของท้าวสักกเทวราช ยาว ๖๐ โยชน์ กว้าง ๕ โยชน์ 19,0023,013,หนา ๑๕ โยชน์ มีสีดุจดอกชัยพฤกษ์ มีปกติยุบลงในเวลาประทับ 19,0023,014,และฟูขึ้นในเวลาเสด็จลุกขึ้น แสดงอาการร้อนแล้ว. 19,0023,015,"ท้าวสักกเทวราช ทรงดำริว่า ""ใครหนอแล ใคร่จะยังเรา" 19,0023,016,"ให้เคลื่อนจากสถาน"" ดั่งนี้แล้ว ทรงเล็งลงมา ได้ทอดพระเนตรเห็น" 19,0023,017,พระเถระด้วยทิพยจักษุ. 19,0023,018,เหตุนั้น พระโบราณาจารย์ทั้งหลาย จึงกล่าวว่า 19,0023,019,"""ท้าวสหัสเนตร ผู้เป็นเจ้าแห่งเทวดา ส่อง" 19,0023,020,ทิพยจักษุ (ทรงทราบว่า) พระปาลเถระองค์นี้ 19,0023,021, 19,0023,022,๑. แผ่นศิลาที่ประทับ มีสีดุจผ้าขนสัตว์เหลือง.