Book,Page,LineNumber,Text 03,0127,001,ศัพท์ คือ กากสูโร คนกล้าเพียงดังกา แม้ถึงท่านจะไม่ได้ยกขึ้น 03,0127,002,แสดงในคัมภีร์ทั้ง ๒ นั้นว่า เป็นอุปมาบุพพบท กัมมธารยะ ก็มีรูป 03,0127,003,ความ เหมือนศัพท์ คือ สงฺขปณฺฑรํ ข้าพเจ้าจึงจัดไว้เป็นพวกเดียวกัน 03,0127,004,ส่วนในฎีกาแห่งสัตถสารัตถชาลินี กล่าวว่าศัพท์ คือ กากสูโร คน 03,0127,005,กล้าเพียงดังกา สีหสูโร คนกล้าเพียงดังสีหะ ๒ ศัพท์นี้ เป็นปฐมา- 03,0127,006,พหุพพิหิ ในจุลสัททนีติ ก็กล่าวเหมือนฎีกาแห่งสัตถสารัตถชาลินี 03,0127,007,ยกเอาศัพท์ทั้ง ๒ คือ สงฺขปณฺฑรํ และ กากสูโร เป็นอุทาหรณ์ 03,0127,008,"และกล่าวให้วิเศษต่อไปว่า "" อธิบายอย่างอื่นยังมีอีก คือกากโต สูโร" 03,0127,009,"=กากสูโร คนกล้ากว่ากา ในอรรถนี้เป็นปัญจมีตัปปุริสะ "" ศัพท์ที่ยก" 03,0127,010,ขึ้นแสดง เป็นอุทาหรณ์เหล่านี้ มีรูปความเป็นอย่างเดียวกัน จะเป็น 03,0127,011,สมาสอะไรก็ต้องเป็นด้วยกัน แต่ท่านแสดงต่าง ๆ กันไปอย่างนี้ ข้าพเจ้า 03,0127,012,เองก็ยังแสวงหาเหตุอยู่ว่า ศัพท์เหล่านี้ เป็นปฐมาพหุพพิหิด้วยเหตุไร 03,0127,013,หรือจะประสงค์ว่า บรรดาศัพท์ที่มีบทอื่นเป็นประธานแล้ว เป็นพหุพพิหิ 03,0127,014,"สิ้น ตามสูตรว่า "" อฺปทตฺเถสุ พหุพพิหิ. พหุพพิหิ ในอรรถแห่ง" 03,0127,015,"บทอื่นทั้งหลาย "" ถ้าถือมั่นตามแบบนี้แล้ว กัมมธารยะ บางอย่าง" 03,0127,016,"มี สีตสมฏฺ€ํ [ €านํ ที่ ] ทั้งเย็นทั้งเกลี้ยง, กุสลสงฺขาตํ กมฺมํ กรรม" 03,0127,017,[ อันบัณฑิต ] นับพร้อมว่ากุศล. เป็นต้น และตัปปุริสะบางอย่าง มี 03,0127,018,"อรฺคโต ชนไปแล้วสู่ป่า, สลฺลวิทฺโธ สัตว์อันศรแทงแล้ว เป็นต้น" 03,0127,019,จะมิต้องกลายเป็นพหฺพพิหิด้วยหรือ ? 03,0127,020,อีกอย่างหนึ่ง ในพาลปโพธิและสัตถสารัตถชาลินี จัดไว้แต่