Book,Page,LineNumber,Text
45,0028,001,"[ ๒๘๓ ] ฎีกามหาอัสสปุรสูตรนั้นว่า "" ในคำว่า เอวรูเปน สีเลน "
45,0028,002,เป็นต้น พึงทราบวินิจฉัยดังนี้ : พระอรรถกถาจารย์กล่าววาริตตสีล๑
45,0028,003,ด้วย สีล ศัพท์. แสดงสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ และสัมมาอาชีวะ
45,0028,004,ด้วย สีล ศัพท์นั้น. แสดงจาริตตสีล๒ ด้วย อาจาร ศัพท์. แสดง
45,0028,005,กายสมาจารและวจีสมาจารอันบริสุทธิ์ดี ด้วย อาจาร ศัพท์นั้น. แสดง
45,0028,006,สัมมาปฏิบัติอันสงเคราะห์ด้วยสมถะ วิปัสสนา และมรรคผล ด้วย
45,0028,007,ปฏิปตฺติ ศัพท์. ด้วยศัพท์ว่า ลชฺชิโน นี้ พระอรรถกถาจารย์ แสดง
45,0028,008,เหตุอันเป็นมูลแห่งศีลและอาจาระตามที่กล่าวแล้ว. ด้วยบทว่า เปสลา
45,0028,009,นี้ พระอรรถกถาจารย์แสดงความบริสุทธิ์. ด้วยบทว่า อุฬารคุณา
45,0028,010,นี้ พระอรรถกถาจารย์ แสดงความบริบูรณ์แห่งข้อปฏิบัติ. พระ
45,0028,011,อรรถกถาจารย์กล่าวคำนี้ว่า ภิกฺขุสงฺฆสฺเสว วณฺณํ กเถนฺติ เพราะ
45,0028,012,ความที่อุบาสกอุบาสิกาเหล่านั้น เป็นผู้ขวนขวายในเกียรติคุณของภิกษุ
45,0028,013,ทั้งหลายโดยมาก. ก็ชนเหล่านั้น เป็นผู้เลื่อมใสยิ่งจริง ๆ ทั้งในพระ
45,0028,014,สัทธรรม ทั้งในพระสัมมาสัมพุทธะ. เหตุนั้น พระอรรถกถาจารย์ จึง
45,0028,015,"กล่าวว่า "" พุทฺธมามกา ธมฺมมามกา สงฺฆมามกา."" จริงอยู่ ในวัตถุ"
45,0028,016,ทั้ง ๓ ชนทั้งหลายเลื่อมใสยิ่งในวัตถุ ๑ ก็ชื่อว่า เลื่อมใสยิ่ง แม้ในวัตถุ
45,0028,017,"๒ นอกนี้ เพราะความที่วัตถุทั้ง ๓ นั้นไม่มีการแยกจากกันได้."""
45,0028,018,[๒๘๔] ส่วนบรรพชิต ก็พึงเป็นผู้มีความเคารพกันและกัน
45,0028,019,ประดุจสัตว์ ๓ สหายฉะนั้น.
45,0028,020,
45,0028,021,๑. วาริตตสีล ได้แก่ ศีลที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม เป็นส่วนพุทธอาณา.
45,0028,022,๒. จาริตตสีล ได้แก่ ศีลส่วนจรรยาอันจะพึงประพฤติ.