Book,Page,LineNumber,Text 42,0033,001,บังเกิดในภพดาวดึงส์ เสวยทิพยสมบัติในฉกามาพจรสวรรค์ โดย 42,0033,002,อนุโลมและปฏิโลม. ในเทพบุตรทั้ง ๒ นั้น บิดาได้อยู่ในเทวโลก 42,0033,003,นั่นเอง. (ส่วน) บุตรจะติจากเทวโลกนั้นแล้ว บังเกิดในคัพโภทร 42,0033,004,ของพระราชเทวีพระนามว่าสุเมธา แห่งพระราชาพระนามว่าสุรุจิ 42,0033,005,ในกรุงมิถิลา แคว้นวิเทหะ โดยล่วงไป ๑๐ เดือน ก็ประสูติ. พระ 42,0033,006,"ชนกชนนี ทรงขนานพระนามของพระราชกุมารนั้นว่า ""มหา-" 42,0033,007,"ปนาทะ"" พระราชกุมารนั้น ในเวลามีพระชนม์ ๑๖ พรรษา ทรง" 42,0033,008,ถึงความสำเร็จในสรรพศิลปะทั้งหลายแล้ว พระราชามีพระราช- 42,0033,009,"โองการสั่งพวกอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจพื้นที่ว่า ""พ่อทั้งหลาย" 42,0033,010,"พวกท่านจงหาช่างมา ให้สร้างปราสาทเพื่อบุตร (ของเรา), เรา" 42,0033,011,"จักอภิเษกเธอในราชสมบัติ."" อาจารย์เหล่านั้นรับพระราชโองการแล้ว" 42,0033,012,จึง (ไป) ตรวจดูภูมิประเทศ. ขณะนั้น อาสนะของท้าวสักกะ 42,0033,013,แสดงอาการร้อน ด้วยอานุภาพแห่งบุญของพระราชกุมารนั้น. ท้าว 42,0033,014,เธอทรงทราบเรื่องนั้น จึงทรงส่งวิศวกรรมเทพบุตรไป ด้วยเทพ- 42,0033,015,"บัญชาว่า ""ท่านจงไปทำปราสาท."" วิศวกรรมเทพบุตรนั้น จึง" 42,0033,016,"จำแลงเพศเป็นนายช่าง ไปสู่สำนักของพวกช่าง บอกว่า "" พวกท่าน" 42,0033,017,"บริโภคอาหารเช้าแล้วจงมา"" ส่งช่างเหล่านั้นไป ปราบพื้นดินด้วย" 42,0033,018,ไม้. ขณะนั้นนั่นเอง ปราสาท ๗ ชั้นแล้วด้วยแก้ว ๗ ประการ กว้าง 42,0033,019,และยาวกึ่งโยชน์ สูง ๒๕ โยชน์ ผุดขึ้นแล้ว ที่พระผู้มีพระภาค 42,0033,020,ตรัสหมายเอา ในมหาปนาทชาดก ติกนิบาต ว่า :- 42,0033,021, 42,0033,022,๑. ขุ. ชา. ติก. ๒๒/๑๐๖. ตทฏุ€กถา ๔/๗๒.