Book,Page,LineNumber,Text 42,0008,001,ธรรมสมควรแก่นวโลกุตตรธรรม. ในบุคคล ๔ จำพวกนั้น จำพวก 42,0008,002,"ต้น พระผู้มีพระภาคตรัสหมายเอาผู้มีสุตะน้อย และเป็นผู้ทุศีล, " 42,0008,003,"จำพวกที่ ๒ มีสุตะน้อย (แต่) เป็นผู้สิ้นอาสวะ, จำพวกที่ ๓ มีสุตะ" 42,0008,004,"มาก (แต่) เป็นผู้ทุศีล, จำพวกที่ ๔ มีสุตะมาก และเป็นผู้สิ้น" 42,0008,005,"อาสวะ.""" 42,0008,006,"อรรถกถาแห่งสูตรนั้น ว่า "" บทว่า อสมาหิโต คือไม่ทำให้" 42,0008,007,บริบูรณ์. บาทคาถาว่า สีลโต จ สุเตน จคือ ทั้งโดยส่วนศีล 42,0008,008,"ทั้งโดยส่วนสุตะ, อธิบายว่า บัณฑิตทั้งหลายย่อมติเตียนเขาอย่างนี้" 42,0008,009,"ว่า "" ผู้นี้ทุศีล (ทั้ง) มีสุตะน้อย."" บาทคาถาว่า ตสฺส สมฺปชฺชเต" 42,0008,010,สุตํ ความว่า เพราะกิจคือสุตะอันบุคคลนั้นทำแล้วด้วยสุตะนี้ ฉะนั้น 42,0008,011,สุตะของเขาจึงชื่อว่าถึงพร้อม. สองบทว่า นาสฺส สมฺปชฺชเต 42,0008,012,ความว่า เพราะเขาไม่ทำกิจคือสุตะ สุตะจึงไม่ถึงพร้อม. บทว่า 42,0008,013,ธรฺมธรํ ได้แก่เป็นผู้รับรองธรรมคือสุตะ. บทว่า สปฺปฺํ คือมี 42,0008,014,ปัญญาดี. บาทคาถาว่า นิกฺขํ ชมฺพูนทสฺเสว ความว่า ทองคำ 42,0008,015,"ธรรมชาติ เรียกกันว่า ทองชมพูนุท, ดุจแท่งทองชมพูนุทนั้น," 42,0008,016,อธิบายว่า เหมือนลิ่มทองหนัก ๕ สุวรรณ. 42,0008,017,แม้พระอานนทเถระ อาศัยความที่ตนเป็นพหุสูต จึงถึงความ 42,0008,018,"เป็นผู้อันพระศาสดาทรงสรรเสริญว่า ""ภิกษุทั้งหลาย อานนท์เป็น" 42,0008,019,"ยอดของภิกษุสาวกทั้งหลายของเราผู้เป็นพหุสูต."" อนึ่งภิกษุผู้เป็น" 42,0008,020,พหุสูต ย่อมเป็นผู้มีลาภเกิดขึ้นโดยไม่ยาก. ในข้อนั้น มีเรื่องดังต่อ 42,0008,021, 42,0008,022,๑. ตามมาตรา ๕ สุวรรณ เป็น ๑ นิกขะ. ๒. องฺ. เอก. ๒๐/๓๒.