Book,Page,LineNumber,Text 34,0021,001,"ในก่อนอีก."" เขาได้ความเกิดขึ้นแห่งสติเพราะโอวาทนั้นแล้ว ได้ยัง " 34,0021,002,จตุตถฌานให้เกิดขึ้นอีก. 34,0021,003,ลำดับนั้น พวกราชบุรุษนำเขาไปสู่ตะแลงแกง ให้เขานอนหงาย 34,0021,004,"บนหลาว ด้วยคิดว่า ""พวกเราจักฆ่าเสีย."" เขาไม่กลัว ไม่สะดุ้ง." 34,0021,005,[พวกมนุษย์ประหลาดใจเพราะเห็นเขาไม่กลัว] 34,0021,006,ลำดับนั้น มนุษย์ทั้งหลาย ผู้ยืนอยู่ในทิศาภาคนั้น ๆ แม้เงือด 34,0021,007,เงื้อเครื่องประหารทั้งหลายมีดาบ หอก และโตมรเป็นต้นแก่เขา เห็น 34,0021,008,"เขามิได้สะดุ้งเลย ต่างพูดว่า ""ผู้เจริญทั้งหลาย พวกท่านจงดูบุรุษ" 34,0021,009,"คนนี้เถิด, เขาไม่หวั่นไหว ไม่สะทกสะท้านในท่ามกลางแห่งบุรุษผู้มี" 34,0021,010,"อาวุธในมือ แม้หลายร้อยคน, โอ ! น่าอัศจรรย์จริง"" ดังนี้แล้วเกิดมี" 34,0021,011,ความอัศจรรย์และประหลาดใจ บันลือสั่นสนั่น (ไป) กราบทูลเรื่อง 34,0021,012,นั่นแด่พระราชา. 34,0021,013,"พระราชา ทรงสดับเหตุนั้นแล้ว ตรัสว่า ""พวกท่านจงปล่อย" 34,0021,014,"เขาเสียเถิด"" ดังนี้แล้ว เสด็จไปแม้ยังสำนักพระศาสดา กราบทูล" 34,0021,015,เนื้อความนั้นแล้ว. 34,0021,016,พระศาสดา ทรงเปล่งพระโอภาสไปแล้ว เมื่อจะทรงแสดง 34,0021,017,ธรรมแก่เขา จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :- 34,0021,018,"""บุคคลใด มีอาลัยดุจหมู่ไม้อันตั้งอยู่ในป่า" 34,0021,019,ออกแล้ว น้อมไปในป่า (คือตปธรม) พ้น 34,0021,020, 34,0021,021,๑. โตมร หอกซัด ๒. Full of wonder and surprise เต็มไปด้วยความ 34,0021,022,อัศจรรย์และประหลาดใจ.