Book,Page,LineNumber,Text
34,0009,001,ประพฤติประมาท ด้วยความประมาท มีการปล่อยสติเป็นลักษณะ.
34,0009,002,อธิบายว่า เหมือนอย่างว่า เครือเถาย่านทรายร้อยรัด รึงรัดต้นไม้อยู่
34,0009,003,"ย่อมเจริญเพื่อความพินาศแห่งต้นไม้นั้นฉันใด, ตัณหาก็ฉันนั้น ชื่อว่า"
34,0009,004,เจริญแก่บุคคลนั้น เพราะอาศัยทวารทั้ง ๖ เกิดขึ้นบ่อย ๆ.
34,0009,005,บาทพระคาถาว่า โส ปริปฺลวติ หุราหุรํ ความว่า บุคคลนั้น
34,0009,006,คือผู้เป็นไปในคติแห่งตัณหา ย่อมเร่ร่อนคือแล่นไปในภพน้อยใหญ่.
34,0009,007,"ถามว่า ""เขาย่อมเร่ร่อนไปเหมือนอะไร ?"" แก้ว่า ""เหมือนวานรตัว"
34,0009,008,"ปรารถนาผลไม้ โลดไปในป่าฉะนั้น."" อธิบายว่า วานรเมื่อปรารถนา"
34,0009,009,"ผลไม้ ย่อมโลดไปในป่า, มันจับกิ่งไม้นั้น ๆ ปล่อยกิ่งนั้นแล้ว จับกิ่ง"
34,0009,010,"อื่น, ปล่อยกิ่งแม้นั้นแล้ว จับกิ่งอื่น ย่อมไม่ถึงความเป็นสัตว์ที่บุคคล"
34,0009,011,"ควรกล่าวได้ว่า ""มันไม่ได้กิ่งไม้จึงนั่งเจ่าแล้ว"" ฉันใด; บุคคลผู้เป็น"
34,0009,012,ไปในคติแห่งตัณหา ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เร่รอนไปสู่ภพน้อยภพใหญ่
34,0009,013,"ย่อมไม่ถึงความเป็นผู้ที่ใคร ๆ ควรพูดได้ว่า ""เขาไม่ได้อารมณ์แล้ว"
34,0009,014,"จึงถึงความไม่เป็นไปตามความทะเยอทะยาน."""
34,0009,015,บทว่า ยํ เป็นต้น ความว่า ตัณหาอันเป็นไปในทวาร ๖ นี้
34,0009,016,ชื่อว่า ลามก เพราะความเป็นของชั่ว ถึงซึ่งอันนับว่า 'วิสตฺติกา' เพราะ
34,0009,017,ความที่ตัณหานั้น เป็นธรรมชาติซ่านไป คือว่า ข้องอยู่ในอารมณ์มี
34,0009,018,รูปเป็นต้น โดยความเป็นดุจอาหารเจือด้วยพิษ โดยความเป็นดุจดอกไม้
34,0009,019,เจือด้วยพิษ โดยความเป็นดุจผลไม้เจือด้วยพิษ โดยความเป็นดุจเครื่อง
34,0009,020,"บริโภคเจือด้วยพิษ ย่อมครอบงำบุคคลใด, ความโศกทั้งหลายมีวัฏฏะ"
34,0009,021,เป็นมูล ย่อมเจริญยิ่งในภายในของบุคคลนั้น เหมือนหญ้าคมบางที่ฝน