Book,Page,LineNumber,Text
12,0013,001,กิริยากิตก์ที่ใช้คุมพากย์ตอนหนึ่ง ๆ ก็นับเป็นพากย์หนึ่ง ๆ อุ. กตํ
12,0013,002,เม กุสฺลํ; อกตํ เม ปาปํ. [ สุมนเทวี. ๑/๑๕๐ ] กุศลอันเราทำ
12,0013,003,แล้ว บาปอันเรามิได้แล้ว. แม้ตอนกิริยาพิเศษที่ใช้คุมพากย์
12,0013,004,เช่น สกฺกา ก็เช่นเดียวกัน.
12,0013,005,[ ๓ ] พากย์ แบ่งเป็น ๕ ตามวาจกทั้ง ๕ คือพากย์กัตตุวาจก
12,0013,006,พากย์กัมมาวาจก พากย์ภาววาจก พากย์เหตุกัตตุวาจก พากย์เหตุ-
12,0013,007,ไว้เป็นที่ตั้ง แล้วหาบทแต่งและขยายประธานตามนัยที่กล่าวแล้ว เช่น
12,0013,008,นี้ก็จะทราบได้ว่า ตอนใดเป็นพากยางค์อะไร และบทที่เข้ากับบทแต่ง
12,0013,009,และขยายประธาน ในพากยางค์ใด ก็นับเข้าในพากยางค์นั้นทั้งหมด.
12,0013,010,ส่วนพากยางค์อนาทรและลักขณะ จัดเป็นพากยางค์หนึ่ง ๆ ต่างหาก
12,0013,011,จะยกพากย์ยาว ๆ ในธัมมปทัฏฐกถา มาตัดเป็นตัวอย่างสัก ๓ พากย์
12,0013,012,คือ :-
12,0013,013,อหึสกา เยติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา สาเกตํ นิสฺสาย
12,0013,014,อญฺชวเน วิหรนฺโต ภิกฺขูหิ ปุฏฺปญฺหํ อารพฺภ กเถสิ.
12,0013,015,[ภิกขูหิปุฏฺปญฺห. ๖/๑๘๐ ] พระศาสดา เมื่อทรงอาศัยเมืองสาเกต
12,0013,016,ประทับอยู่ในอัญชวัน ทรงปรารภปัญหาที่พวกภิกษุทูลถาม จึงตรัส
12,0013,017,พระธรรมเทศนานี้ว่า อหึสกา เย เป็นอาทิ.