Book,Page,LineNumber,Text
04,0158,001,"กิริยาที่เป็นกัตตุวาจก, อัตตโนบท เป็นเครื่องหมายให้รู้กิริยาที่เป็น "
04,0158,002,"กัมมวาจกและภาววาจก อันจะกล่าวข้างหน้า, แต่จะนิยมลงเป็นแน่"
04,0158,003,ทีเดียวก็ไม่ได้. บางคราวปรัสสบทเป็นกัมมวาจกและภาววาจกก็มี
04,0158,004,"เหมือนคำบาลีว่า ""สทิโส เม น วิชฺชติ. คนเช่นกับ ด้วยเรา "
04,0158,005,๑ ๒ ๓ ๔ ๑ ๒
04,0158,006,[อันใคร ๆ] ย่อมหา ไม่ได้. น จ ลพฺภติ รูเป. อนึ่ง [อัน
04,0158,007,๔ ๓ ๑ ๒ ๓ ๔ ๒
04,0158,008,"ใคร ๆ] ย่อมไม่ ได้ ในรูป"" เป็นต้น."
04,0158,009,๑ ๓ ๔
04,0158,010,บางคราว อัตตโนบทเป็นกัตตุวาจกก็มี เหมือนคำบาลีว่า
04,0158,011,"""ปิยโต ชายเต โสโก ความโศก ย่อมเกิด แต่ของที่รัก."" เป็นต้น."
04,0158,012,๑ ๒ ๓ ๓ ๒ ๑
04,0158,013,คำที่กล่าวข้างต้นนั้น ประสงค์เอาแต่บทที่เป็นไปโดยมาก ถ้า
04,0158,014,จำกำหนดให้ละเอียดแล้ว ต้องอาศัยปัจจัยด้วย.
04,0158,015,วจนะ
04,0158,016,(๑๑๒) วิภัตตินั้น จัดเป็นวจนะ ๒ คือ เอกวจนะ ๑ พหุวจนะ ๑.
04,0158,017,เหมือนวิภัตตินาม ถ้าศัพท์นามที่เป็นประธานเป็นเอกวจนะ ต้อง
04,0158,018,"ประกอบกิริยาศัพท์เป็นเอกวจนะตาม, ถ้านามศัพท์เป็นพหุวจนะ ก็"
04,0158,019,"ต้องประกอบกิริยาศัพท์เป็นพหุวจนะตาม, ให้มีวจนะเป็นอันเดียวกัน"
04,0158,020,อย่างนี้ :-